นายอาทิตย์ วุฒิคะโร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะ ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนอ้อย และน้ำตาลทราย(กท.) เปดเผยว่า กท.ได้เห็นชอบในหลักการจัดทำโครงการศึกษา วิจัย พัฒนา และส่งเสริมการผลิต การใช้และการจำหน่ายอ้อย และน้ำ ตาลทรายและผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ เมื่อโครงการประสบความสำเร็จจะจัดตั้งเปนสถาบันต่อไป ตามกฎหมายพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล ทราย พ.ศ.2527 ที่มาตรา 23(1) กำหนดให้มีการจัดตั้ง สถาบันวิจัยและพัฒนา แต่จนถึงปจจุบันกฎหมายใช้มาถึง30ป แต่ ยังไม่มีความคืบหน้า ดังนั้นกท.ในสมัยที่ตนเปนประธานฯจะต้อง เกิดขึ้นโดยเร็ว
โดยตามแนวคิดการจัดตั้งสถาบันสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาอ้อย และอุตสาหกรรมน้ำตาล จะกำหนดให้การดำเนินการดังกล่าวเกิด การรวมศูนย์ เพราะปจจุบันมีมีหลายหน่วยงานดำเนินการแต่เปน ลักษณะต่างคนต่างทำ มีบางหน่วยงานที่ร่วมกัน โดยหน่วยงานที่ ดำเนินการประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ทราย(สอน.) กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติสำนักงานกองทุนส่งเสริม การวิจัย สถาบันการศึกษา และเอกชน ซึ่งทั้งหมดต่างมีความเชี่ ยวชาญเฉพาะทาง
"กท.พบว่าจุดอ่อนของงานวิจัยอ้อยและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อย และน้ำตาลของไทย มาจาก1.ขาดองค์กรหลักในการดำเนินการ 2.ขาดยุทธศาสตร์งานวิจัย 3.ขาดการเชี่ยมโยงกับองค์กรต่างๆ 4.ขาดนักวิชาการด้านการวิจัย และ5.ขาดการสนับสนุนงบประ มาณอย่างต่อเนื่อง"นายอาทิตย์กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งว่า การจัดตั้งสถาบันฯมี ความจำเปนเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเกิด ความยั่งยืนแม้ปจจุบันจะเปนประเทศผู้ส่งออกอันดับ2ของโลก และผู้ผลิตอันดับ4ของโลก แต่ในระยะยาวอาจเกิดปญหาเพราะ อ้อยเปนผลผลิตทางการเกษตรที่ทั่วโลกต้องการและหลาย ประเทศเริ่มสนับสนุนให้ปลูกมากขึ้น
"การตั้งสถาบันฯเบื้องต้นน่าจะใช้งบประมาณหลักสิบล้านบาท จากนั้นจะต้องเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม มีการ สนับสนุนนักวิจัยอย่างเปนระบบ
ทั้งนี้หากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทยไม่ เร่งปรับปรุงประสิทธิภาพ กังวลว่าจะทำให้ความสามารถทางการ ผลิตลดลง เพราะปนี้น้ำตาลที่ผลิตได้ต่อตันไร่อยู่ที่ 109 กิโลกรัม(กก.)ต่อตันอ้อย ถือว่าสูงสุดในประวัติศาสตร์แล้ว แต่ หากเทียบกับประเทศผู้ผลิตสำคัญอย่าง บราซิล อินเดีย และจีน พบว่าต่างผลิตน้ำตาลได้สูงถึง 130กก.ต่อตันอ้อย ดังนั้นไทย ควรผลิตให้ได้ถึง120กก.ต่อตันอ้อยจึงจะแข่งขันในตลาดโลกได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี