พาณิชย์เผยรอที่ปรึกษาศก.สรุปแนวทางเรื่องราคาสินค้าเกษตร-จำนำข้าว
คสช.กำชับดูแลปัญหาปากท้อง
คสช. เข้าพบผู้บริหารพาณิชย์ เบื้องต้นกำชับดูแลปากท้องประชาชนเป็นหลัก ส่วนเรื่องราคาสินค้าเกษตรและโครงการรับจำนำข้าว ยังไม่สรุปว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ แต่ย้ำให้ดำเนินการของเดิมให้โปร่งใส ด้านปลัดกระทรวงพาณิชย์ยอมรับ ส่งออกอาจต้องปรับลดเป้าเหลือ 3.5%
วันที่ 29 พ.ค. 2557 เวลา 09.30 น. พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมาประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ ณ ห้องกิติยากร กระทรวงพาณิชย์ โดยใช้เวลาหารือร่วม 2 ชั่วโมง ภายหลังการหารือได้ขึ้นไปเยี่ยมชมห้องทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ชั้น 11 และได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน และในเวลา 12.10 น. ได้เดินทางออกจากกระทรวงพาณิชย์ ไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทันที
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมหารือกับ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่า ทางคสช. ได้กำชับให้ทางกระทรวงพาณิชย์ เร่งดำเนินงาน 4 แนวทางสำคัญ คือ เรื่องเศรษฐกิจพื้นฐาน การดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน การทำงานให้มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น การบูรณาการความร่วมมือ ปรองดองของทุกหน่วยงาน
ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีการนำเสนอแผนงานต่อ คสช. ทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว แผนงานเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในปัจจุบัน 6 แผน คือ 1.ด้านกฎหมาย/คณะกรรมการที่สำคัญ 2.การรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรและช่วยเหลือ SMEs 3.การเจรจาการค้ากับต่างประเทศ 4.การผลักดันการส่งออก 5.การเตรียมตัวเข้าสู่ AEC 6.การปฏิรูปองค์กร
รวมถึง 7 แผนงานเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ ได้แก่ การเจรจาการค้ากับต่างประเทศ กฎหมายที่สำคัญต่อเศรษฐกิจ การปฏิรูปองค์กร การเข้าสู่ AEC การผลักดันการส่งออก การพัฒนาเศรษฐกิจการค้าภายในประเทศ การจัดทำยุทธศาสตร์การค้า
อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้ระบบการค้าเสรี ยังคงมีการเดินหน้าต่อ แต่ทั้งนี้จะยังไม่มีการทำสัญญาใหม่ ที่อยู่ระหว่างการเจรจาการค้าเสรี(FTA) และในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ยังต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจาก คสช.ก่อน แต่ในส่วนของข้าวที่ได้ดำเนินไปก่อนหน้านี้ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ สำหรับการประมูลข้าวเป็นการทั่วไป และการประมูลผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟท) ยังไม่มีการดำเนินการต่อ โดยต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจากทาง คสช. และผลการตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า
“การดูแลราคาสินค้าเกษตร และแทรกแซงราคาข้าวนั้น ยังอยู่ระหว่างการจัดทำแผน และยังไม่ชัดเจนว่าจะดำเนินโครงการข้าวต่อหรือไม่ แต่ทางคสช. ได้เน้นย้ำให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส และตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อประสานงาน การกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการจากที่ปรึกษาเศรษฐกิจของ คสช.เข้ามา แต่คาดว่าจะต้องทำงานร่วมกันเร็วๆ นี้”
สำหรับอัตราเงินเฟ้อที่ขณะนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น และหลายหน่วยงานได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้อาจสูงมากกว่า 3% ทางกระทรวงพาณิชย์ก็จะพยายามควบคุมไม่ให้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าที่กำหนดไว้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ยังอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ว่า 2-2.8% ส่วนการส่งออกทั้งปี’57 ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ประมาณ 5% ทั้งนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์จากทั้งปัจจัยภายนอกและในประเทศ เช่น การอ่อนค่าของเงินบาท การกีดกันทางการค้า และอุปสรรคเกี่ยวกับต้นทุนต่างๆ จึงคาดว่าอัตราการขยายตัวเลขการส่งออกในปีนี้อาจขยายตัวได้เพียง 3.5% โดยในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี ทางกระทรวงได้มีการมอบหมาย สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทูตพาณิชย์ และเอกชน พยายามเร่งผลักดันการส่งออกในทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่
“งบประมาณปีนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีการเบิกจ่ายไปตามปกติไม่มีเงินคงค้าง ส่วนการทำงบประมาณปี 2558 กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการ แต่เน้นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เป็นหลักเพื่อไม่ให้ธุรกิจของไทยได้รับผลกระทบหลังเป็นเออีซีในปีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทีมที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของคสช.ทั้งเพื่อขอข้อมูลหรือความเห็นใดๆ” นางศรีรัตน์ กล่าว
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ในที่ประชุมทาง พล.อ.ฉัตรชัย ได้ย้ำเรื่องเร่งด่วนในการทำงาน คือ เรื่องการดูแลปัญหาปากท้องประชาชน และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยได้ขอให้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมทำงานกันอย่างสามัคคี และบูรณาการ บรรยากาศในการพูดคุยเป็นการรับฟังการรายงาน ภารกิจต่างๆของแต่ละกรมแต่ในที่ประชุมยังไม่มีสัญญาณว่า พล.อ.ฉัตรชัย จะเข้ามาดำเนินการอย่างไรกับปัญหาเรื่องข้าว และการระบายข้าว ซึ่งที่ผ่านมาทางกระทรวงพาณิชย์ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเรื่องผลการขาดทุนและความโปร่งใส
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี