นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยความเสี่ยงธุรกิจ ได้จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจกรุงไทย (KTBI) ประจำไตรมาสที่ 2/2557 ซึ่งสำรวจจากนักธุรกิจกว่า 2,300 รายทั่วประเทศ พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นจากระดับ 49.52 ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ระดับ 51.03 เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ตามความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ในอนาคต สะท้อนถึงความคาดหวังของนักธุรกิจที่คาดว่าภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังปัญหาทางการเมืองที่กดดันต่อเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้าได้ผ่อนคลายลง อีกทั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้ประกาศนโยบาย และมาตรการเศรษฐกิจที่ค่อนข้างชัดเจน เช่น การตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร การต่ออายุ VAT 7% คงการเก็บภาษีนิติบุคคลในอัตรา 20% การส่งเสริม SME ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ และการเร่งจัดทำงบประมาณปี 2558 ให้ทันใช้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของนักธุรกิจในเกือบทุกภาคเศรษฐกิจที่สำคัญต่างปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะภาคก่อสร้าง ที่ได้รับปัจจัยบวกจากการสานต่อการลงทุนในระบบคมนาคมขนส่ง และโครงการบริหารจัดการน้ำ และหากมองในมิติของภูมิภาค พบว่าความเชื่อมั่นของนักธุรกิจในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลเพิ่มขึ้นมากที่สุด เนื่องจากการชุมนุมในพื้นที่สงบลง อีกทั้งยังคาดหวังว่าจะได้ประโยชน์จากการเร่งดำเนินการและสานต่อโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ
นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว แม้จะยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัว เช่น แรงกดดันจากสหรัฐอเมริกา และกลุ่ม EU ในเรื่องแรงงานและการเมือง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก จากเหตุการณ์ความตึงเครียดในยูเครนและตะวันออกกลาง ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกาที่มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี