ประธานแบงก์ออมสินคนใหม่ รับลูกคสช. เรียกประชุมบอร์ดสัปดาห์นี้ ประเดิมตัดสิทธิประโยชน์ พบผลตอบแทนของ กรรมการปี’56 คนละ 6.8 ล้านบาท ไม่รวมค่าเลี้ยงรับรองรูดบัตรเครดิต “กรุงไทย” ได้อีกเดือนละแสน
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะเรียกประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสินชุดใหม่ครั้งแรก โดยวาระเร่งด่วนอันดับแรกคือการพิจารณาตัด หรือยกเลิกสิทธิประโยชน์บางส่วนที่ไม่สมควรได้รับ ตามนโยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งจะมีการพิจารณาเทียบกับรัฐวิสาหกิจแห่งอื่น
“ข้อมูลเบื้องต้นที่ทราบขณะนี้ผลตอบแทนในส่วนค่ารับรองของกรรมการไม่มีการจำกัด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่ทราบว่าทำมาในสมัยไหน จึงต้องเข้าไปพิจารณาว่าจะยกเลิกหรือจำกัดให้มีความเหมาะสม คณะกรรมการของธนาคารออมสินจะตัดสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอการพิจารณาของ กระทรวงการคลัง เพราะสามารถพิจารณาได้ว่าอะไรเหมาะสมที่ควรได้และไม่ได้ ตามนโยบายของ คสช.” นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลงานประจำปี 2556 ของ ธนาคารออมสิน ระบุว่า กรรมการมีค่าตอบแทนรายเดือนในส่วนของประธานกรรมการได้เดือนละ 2 หมื่นบาท และกรรมการได้เดือนละ 1 หมื่นบาท สำหรับเบี้ยประชุมประธานกรรมการได้ครั้งละ 1.25 หมื่นบาท กรรมการได้ครั้งละ 1 หมื่นบาท นอกจากนี้กรรมการยังได้ผลตอบแทนในกรรมการชุดย่อยได้อีกไม่เกิน 2 คณะ คณะละไม่เกิน 1 เดือน รวมถึงโบนัสอีกคนละประมาณ 1.5 แสนบาท
สำหรับในปี 2556 คณะกรรมการของธนาคารออมสินมีการประชุม 17 ครั้ง ในจำนวนนี้ 13 ครั้ง เป็นการประชุมปกติ อีก 1 ครั้ง เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการวางแผนงานของธนาคาร อีก 3 ครั้ง เป็นการประชุมคณะกรรมการสัญจร ยังไม่รวมกับการประชุมกับคณะกรรมการย่อยที่มีอีก 9 คณะ โดยผลตอบแทนของ กรรมการแต่ละท่านในปี 2556 ทั้งหมดอยู่ที่ 6.85 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของคณะกรรมการไม่รวมกับค่าเลี้ยงรับรองที่กรรมการได้วงเงินอีกคนละ 1 แสนบาทต่อเดือน โดยธนาคารจะให้เป็นบัตรเครดิตของ ธนาคารกรุงไทย หากใช้ไม่ครบสามารถทบยอดที่เหลือไปใช้ในเดือนต่อไปได้ โดยธนาคารจะเป็นผู้ชำระเงินให้ตามที่ธนาคารกรุงไทยเรียกเก็บเงิน โดยไม่เรียกตรวจสอบใบเสร็จจากกรรมการว่าไปใช้ในกิจการของธนาคารหรือไม่
นายสมชัยกล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการยังมีการพิจารณานโยบายของธนาคารที่จะเดินหน้าไปในอนาคตต่อไป ซึ่งจะต้องเป็นไปตามทิศทางที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำหนด ซึ่งจะต้องปล่อยกู้ฐานรากรายย่อยและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไม่ปล่อยกู้รายใหญ่แข่งกับธนาคารพาณิชย์
นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาเรื่องธรรมาภิบาลภายในของธนาคาร การบริหารความเสี่ยงที่ต้องยกมาตรฐานให้เท่ากับธนาคารพาณิชย์ เพราะธนาคารออมสินเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ทั้งสินทรัพย์ เงินฝาก และการปล่อยสินเชื่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี