เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ทำการเชิญสื่อมวลชนร่วมกิจกรรม “ทดสอบขับรถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่” เส้นทาง จังหวัดกระบี่–พังงา ขึ้นโดยมีคณะผู้บริหารพร้อมทีมงาน เช่น คุณสมภพ ปฏิภาณธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, มร.โคจิ นิโนมิยะ หัวหน้าทีมวิศวกร ผู้พัฒนาฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น, มร.มาซาชิ มูราตะ ทีมวิศวกร ผู้พัฒนาฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น, มร.ชูจิ โอตาเกะ ทีมวิศวกร ผู้พัฒนาฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมกิจกรรม และต้อนรับคณะสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ รายงานข้อมูลจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ได้รับการพัฒนาจากแอคคอร์ด เจนเนอเรชั่นที่ 9 โดยยังคงความหรูหรา สง่างาม เสริมด้วยสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลัง และประหยัดน้ำมันสูงด้วยระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) แบบ Full Hybrid ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Atkinson Cycle Double Over Head Camshaft (DOHC) i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม สำหรับระบบไฮบริดโดยเฉพาะ ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 307 นิวตัน-เมตร และเกียร์ E-CVT พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนมีความจุไฟฟ้า 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ให้ประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ มั่นใจรอบด้านด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอันเหนือชั้น พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มรถยนต์ระดับ
พรีเมียม
- รูปลักษณ์ภายนอกหรูหราเหนือระดับในทุกรายละเอียด แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่หรูหรา สง่างาม เพิ่มความล้ำสมัยยิ่งขึ้นด้วยด้วยไฟหน้าแบบ LED ตกแต่งด้วยกรอบสีฟ้า ไฟท้ายแบบ LED และกระจังหน้าดีไซน์พิเศษตกแต่งด้วยเลนส์สี Clear Blue และสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยล้ออัลลอยสีใหม่ทั้งขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น Accord Hybrid และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น Accord Hybrid TECH
และพิเศษยิ่งขึ้นในแอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ รุ่น Accord Hybrid TECH ด้วยระบบไฟหน้าปรับระดับสูง/ต่ำอัตโนมัติ กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง และซันรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบ One-Touch ให้สุนทรียภาพตลอดการเดินทาง
- ภายในห้องโดยสารหรูหรากว้างขวาง สู่มิติใหม่แห่งความสมบูรณ์แบบ
แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ได้รับการออกแบบอย่างหรูหรา ประณีตในทุกรายละเอียด และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง โดยทุกรุ่นมาพร้อมอุปกรณ์เพื่อความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีอันทันสมัย สามารถตอบสนองการใช้งานและความพึงพอใจในทุกสัมผัส อาทิ
• หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบอัจฉริยะ (Intelligent Multi-Information Display-i-MID) พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น โดยมีสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ พร้อมปุ่มควบคุมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่
• มาตรวัดเรืองแสง Self-illuminating Meters ซึ่งบนหน้าจอยังแสดงผลการจ่ายไฟและชาร์จไฟของระบบไฮบริด แสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่าโดยจะแสดงผลด้วยการเปลี่ยนสีที่มาตรวัดเรืองแสง
• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth และรองรับการเชื่อมต่อ Smart Phone บางรุ่น
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา และระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)ที่ใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว
นอกจากนี้ แอคคอร์ด ไฮบริด รุ่น Accord Hybrid ยังมาพร้อม
• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch แสดงผลผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 7.5 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่นดีวีดี วิทยุ-ซีดี รองรับMP3 แบบ 1 แผ่น ให้ความสุนทรีย์ตลอดการเดินทางด้วยลำโพง 6 ตัว
• รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI (สำหรับ iPhone รุ่น 4S ขึ้นไป)
• ช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง
ส่วนในรุ่น Accord Hybrid TECH มาพร้อม
• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส แสดงผลผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 8 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่นดีวีดี รองรับ MP3 แบบ 1 แผ่น ให้ความสุนทรีย์ตลอดการเดินทางด้วยลำโพง 7 ตัว
• ฮาร์ดดิสก์สำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio)
• ระบบนำทางเนวิเกเตอร์แบบ
Interface Dial
• ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Sound System พร้อม Sub-Woofer
- เปี่ยมด้วยขุมพลังไฮบริดที่ล้ำสมัย ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุด
แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมนวัตกรรมไฮบริดที่ล้ำสมัยและทรงประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ทำงานด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Atkinson Cycle Double Over Head Camshaft (DOHC) i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม สำหรับระบบไฮบริดโดยเฉพาะ ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 307 นิวตัน-เมตร เกียร์ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน มีความจุไฟฟ้า 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการชาร์จ และจ่ายกระแสไฟได้ดีกว่า จึงสามารถขับขี่ได้ต่อเนื่องยาวนานในโหมดการขับขี่ด้วยไฟฟ้า นับเป็นระบบไฮบริดแบบ Full Hybrid ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด จึงให้สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม และประหยัดพลังงาน
นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอแสดงผลการจ่ายไฟและชาร์จไฟของระบบไฮบริด (Power and Charge Meter) และสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Eco Coaching ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน รวมทั้งปุ่ม Econ Mode ที่ช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ระบบไฮบริดแบบอัจฉริยะที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ได้ถึง 3 โหมด ดังนี้
• โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) มอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และในขณะลดความเร็วจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดจากการลดความเร็วให้กลับเป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งในระบบนี้จะให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และให้ความเงียบเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง
• โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว และมีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็ว ที่ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง
• โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง ให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ ซึ่งเหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่
การปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้ง 3 รูปแบบ จะมีการสลับการทำงานไปมาอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับรูปแบบการขับขี่ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงจึงเป็นระบบไฮบริดแบบ Full Hybrid ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
มั่นใจรอบด้านด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน อาทิ โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-CON ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ (Dual i-SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbag) พร้อมม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (MA-EPS) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed) ระบบกุญแจนิรภัย (Immobilizer) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
นอกจากนี้ แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ยังมีระบบความปลอดภัยระดับสูงสุด ให้ความมั่นใจรอบด้าน อาทิ
• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย โดยจะใช้กล้องในการจับภาพและแสดงผลผ่านหน้าจอ
• ระบบเสียงเตือนคนภายนอกรถ ขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (Acoustic Vehicle Alerting System-AVAS) เมื่อรถขับเคลื่อนในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบจะส่งเสียงเตือนผู้ที่อยู่ภายนอกรถสามารถรับรู้ว่ามีรถเคลื่อนตัวอยู่ในระยะใกล้
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control-ACC) ทำงานด้วยเรดาร์ตรวจจับความเร็วของรถคันหน้าและควบคุมระยะห่างให้เหมาะสม โดยระบบ ACC จะลดความเร็วของรถยนต์ลงโดยอัตโนมัติเมื่อรถคันหน้ามีการชะลอความเร็ว เพื่อรักษาระยะห่างในระดับที่ปลอดภัย และจะเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นกลับสู่ระดับปกติโดยอัตโนมัติเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่รวดเร็วขึ้น
• ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบแอลอีดี (Daytime Running Lights)
• Multi-angle Rearview Camera กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย สามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน
• ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light-ACL) ช่วยเพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวรถในเวลากลางคืน (เฉพาะรุ่น Accord Hybrid Tech)
• ระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Brake System-CMBS) เป็นระบบที่ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วของรถ เมื่อรถคันหน้าอยู่ใกล้เกินไป และในกรณีที่อยู่ในระยะที่เสี่ยงมาก ระบบจะทำการเบรกอย่างเต็มที่เพื่อลดความรุนแรงในการชน (เฉพาะรุ่น Accord Hybrid Tech)
แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือ Accord Hybrid และ Accord Hybrid TECH และมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) และสีขาวออร์คิด (มุก) สำหรับสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท และสีขาวออร์คิด (มุก) 12,000 บาท
นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคุณภาพที่เหนือชั้นแห่งยนตรกรรมไฮบริดจากฮอนด้า ฮอนด้าจึงรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ถึง 10 ปี เมื่อจองหรือรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี