นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลัง นำไปสู่การขยายตัวของสินเชื่อเอสเอ็มอีที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐได้กำหนดให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นวาระแห่งชาติ และมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี ผ่านการค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) รวมถึงความเชื่อมั่นผู้ประกอบการและผู้บริโภคมากขึ้น และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐมีความชัดเจน
ธนาคารจึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อเอสเอ็มอีตระกูล 3 เท่า(สินเชื่อจุใจ สินเชื่อทันใจ และสินเชื่อพร้อมขยาย)ที่เคยได้รับความนิยมให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องและเตรียมรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตด้วยการให้วงเงินสินเชื่อสูงถึง 3 เท่าของหลักประกันซึ่งสามารถใช้ทั้ง เงินฝากออมทรัพย์หรือหลักทรัพย์เป็นหลักประกัน สินเชื่อเอสเอ็มอี 3 เท่านี้ ให้วงเงินสูงสุดถึง 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง MOR +1.25% / MLR +1.50% ต่อปี สามารถผ่อนได้นานสูงสุดถึง 7 ปี รู้ผลอนุมัติเร็วทันใจใน 3 วัน และฟรีค่าธรรมเนียม บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)ปีแรก
จากปัจจัยดังกล่าวจึงเชื่อว่าครึ่งปีหลังธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีได้ถึง 8.6% เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกที่ปล่อยสินเชื่อได้เพียง 4.4% จากยอดคงค้าง 191,497 ล้านบาท ทั้งนี้เห็นได้จากยอดการปล่อยสินเชื่อในเดือนกรกฎาคม 2557 ซึ่งสูงถึง 33% ธนาคาร จึงเชื่อว่าปีนี้จะสามารถปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีได้ตามเป้า 206,800 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี 183,300 ล้านบาท
ส่วนปี 2558 มองว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้ ฉะนั้น การปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีจะขยายตัวมากกว่า 13% อย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าเป็นภาวะปกติที่อัตราการเติบโตของสินเชื่อเอสเอ็มอีจะต้องสูงกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 3-4 เท่า ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีสัญญาณดีขึ้น โดยเดือนมิถุนายน 2557 เอ็นพีแอลอยู่ที่ 2.7% ลดลงจากเดือนพฤษภาคม ที่เอ็นพีแอลอยู่ในระดับสูงที่ 3% เนื่องจากธนาคารเน้นการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ และลูกหนี้เองเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ จึงชำระหนี้เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในช่วงไตรมาส 2/57 มีกำไรสุทธิ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% เทียบไตรมาส 1/57 และเพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/56 โดยครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 6,800 ล้านบาท ลดลง 4.7% เทียบช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก 4.1% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความมั่งคั่ง การบริหารกองทุนและธุรกิจหลักทรัพย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี