แบงก์ชาติ ชี้นักลงทุน ภาคประชาชน มีความเชื่อมั่นมากขึ้น แนะรัฐบาลใหม่ เร่งลงทุนภาครัฐเพื่อปลุกเศรษฐกิจ ชี้ความท้าทาย อยู่ที่การจัดลำดับความสำคัญ เพราะหลายฝ่ายคาดหวังไว้สูง ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตตามศักภาพ ยืนยันดอกเบี้ยนโยบายระดับ 2 % เหมาะสมแล้ว หากใช้นดยายการเงินผ่อนคลายมากเกินไป จะเร่งให้มีการก่อหนี้สูงเกินไป
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า หลังจากได้ว่าที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อมั่นว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นไปตามโรดแมปที่นักลงทุนที่มีการคาดการเอาไว้แล้วล่วงหน้า หลังจากนี้ไป นักลงทุนต่างๆ คงมีความคาดหวัง และอยากเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการปฏิรูปอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งคาดว่าตั้งแต่ ก.ค.57-มิ.ย.58 จะเริ่มเห็นเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ตามศักยภาพ
ทั้งนี้ทุกฝ่ายต่างคาดหวังผลงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ ดังนั้น รัฐบาลใหม่ จะต้องจัดลำดับความสำคัญของนโยบายและโครงการที่จะทำ ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เพราะรัฐบาลจะต้องทำนโยบายระยะสั้นควบคู่กับนโยบายระยะกลางและระยะยาว และถือเป็นโอกาสดีที่ไทยจะมีการปฏิรูป
นายจิรเทพกล่าวด้วยว่า หลังจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/57 เติบโตที่ระดับ 0.4 % เทียบช่วง เดียวกันปีก่อน จากไตรมาส 1/57ที่ติดลบ 0.5 % ส่งผลให้ครึ่งปีแรกติดลบ 0.1% ส่วนเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้ตามศักยภาพ โดยติดตามแรงส่งการลงทุนภาครัฐ หลังจากที่งบประมาณปี 2558 ขาดดุล 2 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าไปในทิศทางที่ดี และมีปัจจัยสนับสนุนความมั่นใจของประชาชนและนักลงทุน
"ช่วงนี้เรามีการพบนักลงทุน โดยพยายามให้เขาเข้าใจว่าพื้นฐานเศรษฐกิจเราไม่ได้ถูกกระทบ และคงต้องติดตามเนื้อหาการพัฒนาการว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ในช่วงครึ่งแรกที่ผ่านมามันออกมาไม่ดี แต่หลังจากนี้คือนับตั้งแต่เดือน ก.ค.57-มิ.ย.58 เชื่อว่าเศรษฐกิจจะโตตามศักยภาพอย่างแน่นอน” นายจิรเทพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2 % ในปัจจุบันเป็นระดับที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งนโยบายการเงินจะผ่อนคลายต่อเนื่องหรือไม่ กนง. จะพิจารณาปัจจัยรอบด้าน หากมีการผ่อนคลายมากเกินไปจะมีผลกระทบให้การก่อหนี้สูงขึ้น และทำให้การออมลดลง ยืนยันว่าต้นทุนดอกเบี้ยเป็นต้นทุนต่อภาคธุรกิจเพียงเล็กน้อย ขณะที่หนี้ภาคครัวเรือนคาดว่าน่าจะทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย หลังจากมีการกู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประชุมครั้งถัดไปวันที่ 17 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นครั้งที่ 6 ของปีนี้ และในวันที่ 26 กันยายน 2557 จะแถลงรายงานนโยบายการเงิน
"เราคงนำทุกปัจจัยทั้งในช่วงที่ผ่านมา และสถานการณ์ล่าสุดเข้าที่ประชุมทั้งหมด ในการพิจารณาจีดีพีในเดือน ก.ย.นี้ ถ้าถามว่าห่วงเรื่องไหนเป็นพิเศษ ต้องยืนยันว่าเราต้องประเมินทุกเรื่อง คงต้องดูทั้งหมดอย่างแน่นอน” นายจิรเทพ กล่าว
นอกจากนี้ ธปท. เตรียมที่จะหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐใน 2 เรื่อง ประกอบด้วย รูปแบบการดำเนินธุรกิจและการกำกับดูแล เพื่อป้องกันปัญหาการทำธุรกิจแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ เพราะสถาบันการเงินเฉพาะกิจควรมีรูปแบบการดำเนินกิจการตามแนวทางเฉพาะตัวที่กำหนดไว้ เนื่องจากปัจจุบันการทำธุรกรรมเริ่มมีความใกล้เคียงกันมาก จึงต้องเข้ามาดูแลเเละปรับปรุงให้เหมาะสม
ขณะเดียวกันนางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2557 ยังคงเหลือการจัดงานมหกรรมพาณิชย์คืนความสุขให้ประชาชนเพื่อลดค่าครองชีพประชาชนทั่วประเทศอีก 193 ครั้ง ส่วนปี 2558 กรมการค้าภายในได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 241 ล้านบาท เพื่อจัดงานลดค่าครองชีพประชาชน 950 ครั้ง คาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนกว่า 1,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการกระจายลงพื้นที่ให้เข้าถึงชุมชนในต่างจังหวัดมากขึ้น
ทั้งนี้ กำลังอยู่ระหว่างการจัดงานครั้งใหญ่ในส่วนกลาง เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 94 ปี ระหว่างวันที่ 21- 24 สิงหาคมนี้ ที่เมืองทองธานี โดยมีการจำหน่ายสินค้า 600 คูหา ราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปร้อยละ 20-40 โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคราคาพิเศษ ได้แก่ น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 16-18 บาท เนื้อสุกรชำแหละกิโลกรัมละ 85-90 บาท และไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 75-80 บาท เป็นต้น รวมทั้งยังมีสินค้าเกษตร สินค้าโอท็อป และสินค้าแฟรนไชส์ จำหน่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเกษตรกรรายย่อยให้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้า
นอกจากนี้ยังมีการร่วมกับธนาคารออมสินจัดกิจกรรมฝึกอาชีพและให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อและบริการทางการเงินแก่ประชาชน คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานประมาณ 120,000 คน มีเงินหมุนเวียนประมาณ 80-100 ล้านบาท และจะลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้ประมาณ 35-40 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี