นายวีระศักดิ์ ไม้วัฒนา ผู้อำนวยการสำนักสิทธิบัตร กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยถือเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน ที่มีการยื่นคำขอสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรมากที่สุด รองจากสิงคโปร์ แต่ไทยกำลังประสบปัญหาขาดแคลนผู้ที่พิจารณาคำร้อง เพราะไทยมีอัตราคำขอ เทียบกับผู้พิจารณาคำขอสูงถึง 312 คำขอต่อคนต่อปี ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐฯอยู่ที่ 50 คำขอต่อคนต่อปี
ทั้งนี้จากปัญหาดังกล่าวกรมฯจึงได้ยื่นขออัตราไปยัง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ช่วยพิจารณาเพิ่มเติมจำนวนผู้พิจารณาสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร อย่างไรก็ตามในเดือนกันยายน 2557 กรมฯจะเปิดให้บริการยื่นขอจดสิทธิบัตรผ่านทางอินเตอร์เน็ต เพื่อลดการทำงานที่โหลดของพนักงานผู้พิจารณาคำขออีกทางหนึ่ง
“แนวโน้มการยื่นขอสิทธิบัตรในไทย เพิ่มขึ้นปีละ 10% ปัจจุบันมีผู้มายื่นคำขอจดสิทธิบัตร และอนุสิทธิบัตรประมาณ 8,500 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นการยื่นขอจดอนุสิทธิบัตร อีกทั้งกลุ่มผู้ขอจดอนุสิทธิบัตร คือ กลุ่มเอสเอ็มอี เนื่องจากใช้เวลาในการขอสั้นกว่าการขอสิทธิบัตร และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังประดิษฐ์ คิดค้น นวัตกรรมเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น ไม่ใช่นวัตกรรมหรือ เทคโนโลยีสำหรับโรงงานขนาดใหญ่”นายวีระศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการไทยในการเข้าสู่เวทีโลก และเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) กระทรวงฯไม่เพียงดูแลนโยบาย เพื่อความคล่องตัวในการทำธุรกิจ แต่เล็งเห็นว่าทรัพย์สินทางปัญญาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งเสริมความสำเร็จให้ผู้ประกอบการ ด้วยการส่งเสริมให้จดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเป็นการป้องกันการถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในไทยและต่างประเทศ จึงได้จัดตั้งโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากเอกสารสิทธิบัตร ตามโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี