แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ทางกลุ่มโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็กหรือเอสพีพี นำโดยกลุ่มบริษัท อมตะ บี.กริม พาวเวอร์ จำกัด และกลุ่มบริษัท โกลว์ ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เพื่อขอต่ออายุสัญญาโรงไฟฟ้าเอสพีพี ที่กำลังทยอยหมดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป
โดยหนังสือที่กลุ่มบริษัทอมตะ บี.กริมฯร่วมกับกลุ่มโกลว์ จะขอขยายอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าออกไปอีกไม่เกิน 5 ปีสำหรับเอสพีพีรายที่มีอายุสัญญาเดิมเหลือเวลาไม่พอสำหรับการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่หมดสัญญา นอกจากนี้ ยังขอให้สามารถสร้างโรงไฟฟ้าเอสพีพีใหม่บนพื้นที่เดิมหรือใกล้เคียงก่อนที่สัญญาเก่าจะหมดอายุลง โดยให้สิทธิแก่ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กเดิมที่กำลังหมดอายุลงได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่อายุสัญญา 25 ปี
สำหรับโรงไฟฟ้าเอสพีพีของกลุ่มบริษัท อมตะ บี.กริม พาวเวอร์ จำกัด จำนวน 2 โรง กำลังการผลิต 280 เมกะวัตต์ เริ่มทยอยหมดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2562 ส่วนโรงไฟฟ้าในกลุ่มโกลว์ จำนวน 9 โรง กำลังการผลิตรวม 1,015 เมกะวัตต์ เริ่มทยอยหมดอายุสัญญาฯตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป
แหล่งข่าวเผยอีกว่า ขณะนี้ในสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กำลังจับตาดูอยู่การขอต่ออายุสัญญาโรงไฟฟ้าเอสพีพี ว่า จะเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เพราะกำลังมีข้อครหาถึงคุณสมบัติของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานท่านหนึ่ง ที่เป็นอดีตผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก ขณะที่มีลูกชายเป็นผู้บริหารระดับสูงบริษัท อมตะ บี.กริม พาวเวอร์ จำกัด หากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอนุมัติให้โรงไฟฟ้าเอสพีพีต่ออายุสัญญาออกไป จะเกิดข้อครหาเรื่องเอื้อประโยชน์หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี