มติกสท.3:2ถอดปลั๊ก
ช่อง3จอมืด
ห้ามออกดาวเทียม-เคเบิ้ล
ขู่ใครฝ่าฝืนยึดใบอนุญาต
เปิดช่องอุทธรณ์ใน15วัน
เมื่อวันที่ 8 กันยายน เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.)
ซึ่งที่ประชุมบอร์ด กสท.ได้ลงมติด้วยคะแนน 3 ต่อ 2 เพื่อลงมติออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิล จะต้องงดแพร่ภาพการออกอากาศของบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด หรือสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศบนจานดาวเทียมและเคเบิล
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. จะส่งคำสั่งทางปกครองไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดาวเทียม และเคเบิล ภายใน 15 วัน นับจากที่ลงมติบอร์ดหลังจากผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดาวเทียมและเคเบิล ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ ซึ่งจะส่งผลให้ช่อง3อนาล็อกไม่สามารถออกอากาศบนดาวเทียมและเคเบิลได้อีกต่อไป และยังมีมติห้าม พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท.เป็นผู้แถลงข่าวเช่นทุกครั้งโดยมอบหมายให้ พ.ต.โกเมธ เประทีปทอง ผู้อำนวยการสำนักกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์และการประชุม กสทช.ป็นผู้แถลงข่าวแทน
สำหรับ 3 คะแนนเสียงที่เห็นด้วย คือ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ นายพีระพงษ์ มานะกิจน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ส่วน 2 คะแนนเสียงที่ลงมติไม่เห็นด้วย คือ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. และ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า
พ.ตโกเมธ ประทีปทอง ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์และการประชุม กสทช.กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดกสท.มีมติให้ผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดาวเทียม และเคเบิล ต้องปลดช่อง 3 ระบบอนาล็อค ลงจากโครงข่ายภายใน 15 วัน นับจากได้รับหนังสือจากสำนักงาน กสทช. อย่างเป็นทางการ หากผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล ฝ่าฝืนจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดคือสั่งปรับ และเพิกถอนใบอนุญาต
เนื่องจากช่อง3อนาล็อก สิ้นสุดการเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปหรือฟรีทีวี ตามประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป(มัสต์แครี่) พ.ศ.2555ตั้งแต่วันที่1ก.ย.2557หากต้องการออกอากาศ บนโครงดาวเทียมและเคเบิล จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กสทช.กำหนดคือช่อง3อนาล็อกจะต้องออกอากาศคู่ขนานในช่องทีวีดิจิตอล ช่องใดช่องหนึ่งที่ประมูลได้ และต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัสน์แบบบอกรับสมาชิก(เพย์ทีวี)ที่โฆษณาได้เฉลี่ย6นาทีต่อชั่วโมง ขณะที่สัญญาสัมปทานของช่อง 3จะสิ้นสุดในปี2563
และที่ประชุมยังมีมติให้เชิญ ทรูวิชั่นส์ ช่อง3 ทีวีดิจิทัล 24 ช่องและโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือทรท.หารือวันที่10 ก.ย.เกี่ยวกับการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์
ขณะเดียวกัน ผู้ชมโทรทัศน์ จะสามารถรับชมรายการของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3อ.ส.ม.ท.ได้โดยการรับสัญญาณระบบUHFผ่านเสาอากาศก้างปลาและหนวดกุ้งเท่านั้นซึ่งช่อง 3 ยังมีสัญญาสัมปทานกับอสมท ถึงปี2563 ส่วนอีก 3 ช่องที่เหลือคือ ช่อง 3 เอชดี ช่อง 33,ช่อง 3 เอสดี ช่อง 28 และช่อง3 แฟมิลี่ ช่อง13ซึ่งเป็นโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดินที่ผ่านการประมูล ยังสามารถรับชมได้ตามปกติ
นายฐากร ตัณสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า กรณีของช่อง3 สามารถยื่นอุทรณ์ได้ที่ กสทช.ภายใน15วันหลังจากนี้เพื่อที่จะนำวาระเข้าประชุมบอร์ด กสทช.วันที่ 17 ก.ย.นี้โดยชี้ทางออกช่อง 3 ให้ ยื่นอุทรณ์มาที่บอร์ด กสทช.ชุดใหญ่ได้ ไม่เห็นด้วยกับมติ กสท เมื่อวันที่ 3 และให้ห้ทบทวนมติวันที่3ไม่ให้บังคับใช้กับช่อง3เนื่องจากละเมิดบทเฉพาะกาล อีกทั้งระหว่างนี้ใน 15วัน อยู่ระหว่างการเข้าประชุม บอร์ด กสทช. สามารถให้ช่อง3อนาล็อก แพร่ภาพออกอากาศบนโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดาวเทียมและเคเบิลได้
ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกสท. ออกเอกสารที่เห็นแย้งกรณีช่อง3อนาล็อกว่าช่อง3ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย แต่จะต้องไม่ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับผลกระทบจากคำสั่งทางปกครองชี้แจงข้อเท็จจริงรวมทั้งเกิดผลดีต่อกระบวนการเปลี่ยนผ่านการให้บริการจากอนาล็อกไปสู่ทีวีดิจิตอล เป็นภารกิจสำคัญของกสท.และการพัฒนาประเทศในภาพรวม
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 มอบอำนาจให้ทนายความเป็นโจทก์ฟ้อง 3 กสทช. ประกอบด้วย น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ และนายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยเฉพาะจำเลยที่1ให้สัมภาษณ์ มีข้อความใส่ความโจทก์และมีการโพสข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ตามเว็บไซต์อื่นซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสีย ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้พิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย ซึ่งศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาและนัดฟังคำสั่งว่าจะรับไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้หรือไม่ วันที่18 ก.ย.นี้เวลา09.00น.
เวลา16.00น.เครือข่ายผู้บริโภคนำโดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจ 3 กรรมการ กสท.ที่ถูกช่อง3ยื่นฟ้องดำเนินคดีข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หมิ่นประมาท และกระทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2551โดย น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า กำลังพิจารณาเจตนาการฟ้องร้องของช่อง 3 ว่า สุจริตหรือไม่ เมื่อหารือฝ่ายกฏหมายแล้ว ถ้ามีเจตนาในการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ก็เตรียมที่จะยื่นฟ้องต่อศาลอาญากลับ
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยในวันเดียวกันว่า ได้หารือร่วมกับ นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง โดยกสทช.ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมการปกครองจากข้อมูล เมื่อวันที่ 8 กันยายนพบว่าประเทศไทยขณะนี้มีจำนวนครัวเรือนอยู่ทั้งสิ้น23.8ล้านครัวเรือนโดยแบ่งเป็นครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านและมีเจ้าบ้านอาศัยอยู่ 14.1ล้านครัวเรือน ครัวเรือนที่ไม่มีเจ้าบ้านและไม่มีคนอาศัยอยู่จำนวน7.3ล้านครัวเรือน และครัวเรือนไม่มีเจ้าบ้านแต่มีคนอยู่อาศัย2.4ล้านครัวเรือน และหลังได้รับข้อมูล กสทช.จึงปรับเปลี่ยนจำนวนครัวเรือนที่ได้รับการแจกคูปองเงินสนับสนุนค่าอุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอลจาก22.9ล้านครัว เป็นฐานข้อมูลครัวเรือนปัจจุบัน ที่มีเจ้าบ้านและผู้อยู่อาศัยอาศัยอยู่14.1ล้านครัวเรือน พร้อม ขอยืนว่าการจัดส่งคูปองที่มีกำหนดจัดส่งในวันที่15 ตุลาคมนี้ตามกำหนดเดิม ถ้าเป็นไปได้ กสทช.จะเร่งให้กระบวนการแจกคูปองเร็วกว่าที่กำหนดเช่นกันถึงต้องหาโรงพิมพ์ใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี