นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้ ธ.ก.ส. ส่งข้อมูลเรื่องราคาข้าวเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจากราคาข้าวที่ตกต่ำโดยเฉพาะราคาข้าวเปลือกเจ้าที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงนี้ จากผลผลิตข้าวเปลือกเจ้าทั้งหมด 10-11ล้านตัน ส่งผลให้ราคาขายข้าวที่มีความชื้น 15% อยู่ที่7,000-7,500 บาทต่อตัน ขณะที่ข้าวที่มีความชื้น 30% ถูกกดราคาเหลือ 6,000-6,200 บาทต่อตัน ซึ่งความเดือดร้อนดังกล่าวเชื่อว่า ทาง ม.ร.ว. ปรีดิยาธร จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ดูแลเรื่องการลดต้นทุนปัจจัยการผลิต และกระทรวงพาณิชย์ที่ดูแลทางด้านราคา รวมถึงกระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. เข้าหารือด้วย
“หลักการที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ให้มาคือต้องทำงานตามกรอบนโยบายรัฐ คือต้องใช้กลไกตลาด โดยยังไม่เข้าแทรกแซงเพื่อหวังบิดเบือนราคา โดยยังคงมุ่งเรื่องการลดต้นทุนการผลิต เช่น ให้กระทรวงมหาดไทย ดูเรื่องลดค่าเช่า ให้ ธ.ก.ส. ดูเรื่องการลดดอกเบี้ยเพื่อลดต้นทุนไปก่อน แต่ตอนนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ 6,000ซึ่งต่ำกว่าที่เคยคุยกันในกรอบแรกว่าราคาที่เกษตรกรจะต้องอยู่ที่ 8,500-9,000 บาทต่อตัน ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีมาตราอะไรออกมาเพิ่มเติมอีก” นายลักษณ์ กล่าว
สำหรับราคาข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15% ราคา1.4-1.5 หมื่นบาทต่อตัน และข้าวเหนียว ราคา 1.3 หมื่นบาทต่อตัน ข้าวหอมประทุม ราคา 9,000-9,500 บาทต่อตัน ถือว่ายังไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องราคาข้าวเปลือกเจ้าที่มีตกต่ำ เห็นว่าควรเร่งหารือไม่เกินเดือนนี้เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกมามากที่สุด
นายลักษณ์กล่าวว่า ในที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังในวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง มอบนโยบายให้ ธ.ก.ส. หามาตรการเชิงรุกในเรื่องการแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งอยากให้ทำให้เข้มข้นมากขึ้นโดยเฉพาะการเข้าช่วยเหลือเกษตรกร ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน รวมทั้งได้ให้นโยบายเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่อ่อนตัวลงว่า ให้ทำงานบนพื้นฐานความจริง ที่ต้องช่วยวางโครงสร้างระยะยาว ส่วนปัญหาระยะสั้นขอให้ทุกคนมีความอดทนต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้ชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องมาตรการแก้หนี้นอกระบบ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2557-30 ก.ย. 2558 ซึ่งจะปล่อยกู้ไม่เกินรายละ 1 แสนบาท ดอกเบี้ย 12% ต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “สินเชื่ออุ่นใจคนไกลบ้าน”วงเงิน 1,000 ปล่อยกู้ให้บุตรของลูกค้าชั้นดีของธนาคารที่เข้ามาทำมาหากินในกรุงเทพฯ และปริมณฑล วงเงินไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 12% เพื่อป้องกันบุตรของเกษตรกรไม่ให้มีการกู้นอกระบบเพื่อมาประกอบอาชีพ
รายงานข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ธ.ก.ส. ได้เห็นชอบวงเงินเพื่อปล่อยสินเชื่อในลอตแรกให้กับสหกรณ์นำไปรวบรวมยางพารา แล้ว 281 แห่ง วงเงิน 2,880 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมามีการเบิกจ่ายจริงไปแล้วเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยเบิกจ่ายได้ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากสหกรณ์หลายแห่งต้องรอผลการประชุมของคณะกรรมการสหกรณ์ก่อน
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. มีมติสนับสนุนสินเชื่อภายใต้แนวทางการพัฒนายางพาราทั้งระบบ 2 โครงการ คือ โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้รวบรวมยางวงเงิน 10,000 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราวงเงิน 5,000 ล้านบาท เบื้องต้นในเดือน ก.ย. ตั้งเป้าปล่อยกู้จำนวน 4,000 ล้านบาท เดือน ต.ค. 2,000 ล้านบาท และเดือนพ.ย.อีก 1,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี