ดัชนีฯเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคมลดครั้งแรกในรอบ 4 เดือนเหลือ 88.7 หลังการบริโภคทรุด เหตุราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ – น้ำท่วม ฉุดยอดขายสินค้าในประเทศลด แนะรัฐเร่งรัดการลงทุนอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนสิงหาคม 2557 ว่า ความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยอยู่ที่ระดับ 88.7ลดลงจากระดับ89.7 ในเดือนกรกฎาคมเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยค่าดัชนีฯที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ
หากจำแนกตามยอดการส่งออกแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่เน้นตลาดในประเทศกับตลาดส่งออก พบว่า ค่าดัชนีเชื่อมั่นฯกลุ่มที่มีการส่งออกน้อยกว่า 50% ของยอดขายหรือเน้นตลาดในประเทศนั้นค่าดัชนีเชื่อมั่นฯปรับลดลงจากเดือนกรกฎาคมเป็นการลดทั้งยอดขาย การผลิต และผลประกอบการได้แก่ อุตสาหกรรมแก้วและกระจก ไม้อัด ไม้บางและวัสดุแผ่น เซรามิก เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่มีการส่งออกตั้งแต่ 50% ของยอดขายขึ้นไปหรือเน้นตลาดต่างประเทศ พบว่า ดัชนีเชื่อมั่นฯอยู่ที่ 83 เพิ่มขึ้นจาก 82.8 ในเดือนกรกฎาคมเนื่องจากยอดคำสั่งซื้อ การผลิต เพิ่มขึ้นเช่น อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องประดับ เคมีและปิโตรเคมี เป็นต้น
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 102.4 ลดลงจาก 103.1 ในเดือนกรกฎาคม โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯคาดการณ์ที่ลดลง เกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ
จากการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการกังวลต่อการชะลอตัวของการบริโภคภายในประเทศ สะท้อนจากดัชนียอดคำสั่งซื้อ และยอดขายในประเทศที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าคงทนประเภทรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องจักรกลการเกษตร เป็นต้น ประกอบกับในหลายพื้นที่เกิดภาวะน้ำท่วม ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการขนส่งสินค้าและการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเชื่อมั่นว่าเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลจะสามารถผลักดันนโยบายและมาตรการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบการอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2557 พบว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ส่วนปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อยู่ในระดับทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
ผู้ประกอบการมีข้อเสนอแนะ ต่อภาครัฐคือ เร่งรัดการลงทุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ปรับหลักเกณฑ์การค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการSMEs ออกมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพต่ำจากต่างประเทศเพื่อปกป้องผู้บริโภคและผู้ประกอบการในประเทศรวมถึงช่วยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพแรงงานไทยเพื่อรองรับการเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายการปรับโครงสร้างภาษีต่างๆ ของรัฐบาลเช่นภาษีมรดกนั้นภาคเอกชนสนับสนุนให้ดำเนินการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT ที่วางไว้ในปี 2558 ที่จะต้องปรับไปอยู่ในระดับปกติคือ 10% จากปีนี้ที่คงไว้ระดับ 7% อยู่นั้นมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2558 จะโตได้ในระดับ 4.5%เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวซึ่งจะทำให้โอกาสการส่งออกของไทยจะเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 4-5% จากปีนี้ที่คาดว่าส่งออกคงจะโตได้ไม่เกิน 2% ดังนั้นการเก็บ VAT ระดับ 10% ก็คงจะเหมาะสมแต่ทั้งนี้หากภาวะเศรษฐกิจไทยไม่เติบโตไปตามเป้าหมายนี้ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะพิจารณาทบทวนอีกครั้ง
นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนสิงหาคม 2557 มีค่า 44.0 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีค่า 41.4 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบเกือบสิบปี
ทั้งนี้ ค่าดัชนีทุกรายการมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังต่ำกว่าระดับ 50 ก็ตาม สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ แต่คาดหวังว่าเศรษฐกิจในอนาคตจะดีขึ้นจากการที่บ้านเมืองมีความสงบ โดยการบริหารจัดการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เริ่มมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของประชาชน นักลงทุน และนักท่องเที่ยว
อีกทั้งการลดราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินลง ช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายของภาคครัวเรือน อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลปัญหาค่าครองชีพ และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งเป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่มีแนวโน้มที่แน่นอนในการฟื้นตัว ซึ่งมีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและภาคการส่งออกของไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี