18 ก.ย.57 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังหารือกับนายหนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะว่า ทางเอกอัครราชทูตจีนได้แสดงความปรารถนาที่จะทำการค้าการลงทุนต่อกันมากขึ้น โดยจุดเริ่มที่ดีคือ ทางจีนชักชวนว่า น่าจะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย - จีน ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เคยประชุมร่วมกันผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว
“ในการประชุมร่วมกันครั้งใหม่นี้จะพิจารณากันทั้งเรื่องสินค้าที่ไทยส่งออกไปจีนโดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ข้าวและยางพาราที่จะต้องหารือกัน และเรื่องการลงทุนของจีนที่ต้องการมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะไปพิจารณาว่า ต้องการให้จีนมาลงทุนในส่วนไหน โดยการลงทุนต่อไปนี้ต้องเลือกแล้วว่า จะให้ลงทุนส่วนไหน ทั้งนี้ ทางจีนจะส่งกำหนดการแจ้งมาภายหลังว่า จะให้มีการประชุมร่วมกันเมื่อใด เบื้องต้นทางฝ่ายจีนแจ้งว่าการประชุมร่วมของคณะกรรมการร่วมมือการค้าระหว่างไทย - จีนครั้งแรกจะจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง และฝ่ายไทยขอให้จัดการประชุมครั้งที่ 2 ในปีหน้าที่ประเทศไทย”
สำหรับยอดการส่งออกไปจีนของไทยเพิ่มขึ้นสูงเร็วมาก เมื่อ 15 ปีที่แล้วยอดส่งออกของไทยไปจีนเทียบกับส่งออกทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 2% แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 12% และถ้านับประเทศเดียวที่ไทยส่งออกไป การส่งออกไปจีนจะสูงกว่าประเทศอื่นในโลก ชัดเจนว่าเราพึ่งจีนได้จริงๆ ตอนนี้จีนเป็นเสาหลักของเอเชียตะวันออก โดยยอดส่งออกของไทยไปเฉพาะเอเชียตะวันออกอยู่ที่ 55% เวลาที่เศรษฐกิจของจีนเติบโต เศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกจะเติบโตตาม และเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลด้วย
ส่วนเป้าหมายการค้าการลงทุนระหว่างกันนั้น คงไม่ต้องไปปรับอะไร ขายได้มาก ลงทุนได้มากก็ควรจะทำไป อย่าไปยึดเป้า ยึดตัวเลขอะไรให้ยุ่ง การค้าเป็นเรื่องของประโยชน์ทั้งสองข้างอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี