นับวันสังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากคนไทยมีแนวโน้มอายุยืนยาวมากขึ้น ดังนั้นผู้เกษียณต้องมีเงินออมเพื่อรองรับชีวิตหลังการเกษียณมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน แต่จะทำอย่างไรเพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอที่จะเลี้ยงชีพที่ว่า..
ซึ่งในเรื่อง “ทวี ธีระสุนทรวงศ์” รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ให้ความเห็นว่าผู้มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำ ทั้งที่เป็นข้าราชการและลูกจ้างเอกชนที่จะเกษียณอายุการทำงานในสิ้นเดือนกันยายนนี้ประมาณ 400,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีทำให้สังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากคนไทยมีแนวโน้มอายุยืนยาวมากขึ้นผู้เกษียณต้องมีเงินออมเพื่อรองรับชีวิตหลังการเกษียณได้อย่างมีความสุข
ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย (K-Expert) ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีวิตของผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ โดยหากผู้เกษียณใช้ชีวิตแบบ “เกษียณสุขใจ” คือชีวิตหลังเกษียณแบบพอเพียง พออยู่พอกิน จะต้องเตรียมเงินใช้จ่ายประมาณ 294,400 บาทต่อปี หรือคิดเป็น 24,533 ต่อเดือน หรือหากอยากมีชีวิตหลังเกษียณแบบ “เกษียณสุขเกษม” คือ ใช้ชีวิตแบบสมบูรณ์พูนสุข จะต้องเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายประมาณ 625,300 บาทต่อปี หรือคิดเป็น 52,108 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตหลังเกษียณจะมี 5 ส่วน โดยมีสัดส่วนดังนี้ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำรงชีพ อาทิ ค่าอาหาร ของใช้ในบ้าน เครื่องแต่งกาย คิดประมาณ 27-29% ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย อาทิ ค่าน้ำไฟ อินเตอร์เนต ซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน ประมาณ 20-22% ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ อาทิ ประกันรถยนต์ น้ำมันและทางด่วน ซ่อมรถ ประมาณ 20-23% ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ อาทิ ประกันสุขภาพ อาหารเสริม ค่ารักษาพยาบาล ประมาณ 11-13% และค่าใช้จ่ายเพื่อนันทนาการ อาทิ ท่องเที่ยว ทานอาหารนอกบ้าน กีฬา ประมาณ 17-18%
ดังนั้นมนุษย์เงินเดือนควรตระหนักเรื่องการออมเงินสำหรับใช้จ่ายในวัยเกษียณตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากแนวโน้มค่าครองชีพในอนาคตนับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงวันที่ต้องเกษียณจริง ค่าครองชีพก็จะสูงจนไม่สามารถใช้จ่ายเงินได้เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยสำหรับผู้ที่จะเริ่มเก็บออม หากเริ่มออมเมื่ออายุ 30 ปี ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน ลงทุนในกองทุน หุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ การทำประกันชีวิต ฯลฯ ควรจะออมให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 25,000 บาทอย่างต่อเนื่อง หากเริ่มเมื่ออายุ 35 ปี ก็ควรออมให้ได้เดือนละ 30,000 บาท และหากเริ่มออมเมื่ออายุ 40 ปี ก็ต้องออมให้ได้ถึง 35,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นจึงควรจะเริ่มออมเมื่ออายุยังน้อย เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระหนักเกินไป เมื่ออายุมากขึ้น
สำหรับเทคนิคการลงทุนของคนวัยหลังเกษียณ ควรเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ควรเอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งให้ความสำคัญเรื่องประกันชีวิตและสุขภาพที่ต้องประกันตั้งแต่ยังมีสุขภาพดีอยู่ เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินออมยามเกษียณ อีกทั้งควรลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและยืนยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี