ยันขึ้นดีเซลแตะ33บ.ไม่กระทบศก.
‘ปตท.’หนุนรัฐปฏิรูปพลังาน
ขยับน้ำมันพร้อมLPG-NGV
ผู้บริหาร “ปตท.” ชี้ปรับขึ้นราคา “แอลพีจี-เอ็นจีวี-ดีเซล” ไม่กระทบกำลังซื้อ เผยเตรียมเปิดแบรนด์ใหม่คล้ายร้านสะดวกซื้อ “จิฟฟี่” เริ่มที่เอกมัยเป็นสาขาแรก
นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคขนส่ง และเอ็นจีวีช่วงต้นเดือนตุลาคม 2557 ตามแผนปฏิรูปพลังงานของรัฐบาล จะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชนเพียงเล็กน้อย โดยการปรับขึ้นราคาก็เพื่อให้ สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง หลังราคาแอลพีจี ภาคขนส่งถูกกว่าภาคครัวเรือนตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณการใช้แอลพีจีภาคขนส่งสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 10%
พร้อมสนับสนุนหากรัฐบาลจะปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลให้มากกว่า 30 บาทต่อลิตร ในช่วงนี้ก็นับเป็นช่วงที่เหมาะสม เนื่องจากราคาตลาดโลกยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ อีกทั้งในอดีตราคาน้ำมันดีเซลก็เคยปรับขึ้นในช่วง 30-33 บาทต่อลิตร ซึ่งไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก หากมีการปรับขึ้นในช่วง 31-33 บาทต่อลิตรไม่น่าจะส่งผลกระทบกับต่อผู้บริโภคมากนัก
สำหรับปัจจุบันราคาก๊าซแอลพีจีภาคขนส่งอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งนโยบายปรับโครงสร้างที่กระทรวงพลังงานได้มีการเสนอ คือ การปรับราคาให้เท่ากับภาคครัวเรือนที่ขณะนี้อยู่ที่ 22.63 บาทต่อกิโลกรัม โดยได้เสนอ 2 แนวทางในการปรับขึ้นราคา คือ ขึ้นทันที 1.25 บาทต่อกิโลกรัม หรือปรับขึ้น 2 ครั้งๆ ละ 62 สตางค์ต่อกิโลกรัม ส่วนก๊าซเอ็นจีวี ที่ขณะนี้ถูกตรึงราคาไว้ที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม มีแผนจะปรับราคาขึ้น 1 บาทต่อกิโลกรัมในครั้งแรก เพื่อให้เท่ากับต้นทุนจริงที่ 15 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนจะปรับขึ้นทุกเดือนเดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม หรือปรับขึ้นในต้นเดือนตุลาคมเพียง 1 บาทต่อกิโลกรัม แล้วรอดูผลกระทบจากผู้ใช้เอ็นจีวีอีกครั้ง อยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง.
นายสรัญกล่าวว่า จากการที่ราคาก๊าซแอลพีจีของไทยต่ำกว่าเชื้อเพลิงประเภทอื่น ทำให้มีความนิยมใช้ในภาคขนส่งมีอัตราสูง จนไทยเปลี่ยนจากประเทศผู้ส่งออกมาเป็นนำเข้าแอลพีจีตั้งแต่กลางปี 2551 และทำให้คลังรับแอลพีจี ที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไม่เพียงพอ ในขณะนี้ ปตท. จึงอยู่ระหว่างการขยายคลังรองรับการนำเข้าระยะที่ 1 ซึ่งเพิ่มขึ้น จาก 1.3 แสนตันต่อเดือน เป็น 2.5 แสนตันต่อเดือน ด้วยวงเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2558 จากนั้นเตรียมจะก่อสร้างเพิ่มเติมระยะที่ 2 ด้วยเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มการนำเข้าเป็น 5 แสนตันต่อเดือน
“ในส่วนของแนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงสิ้นปีนี้คาดว่าคงทรงตัวหรืออาจปรับลดลง เนื่องจากมีอุปทานน้ำมันดิบที่มีอยู่จำนวนมากในตลาด รวมทั้งบางประเทศเริ่มกลับมาผลิตน้ำมันอีกครั้งหลังปิดทำการซ่อมบำรุง ในขณะที่ปริมาณความต้องการใช้คงที่ทำให้ราคาน้ำมันอาจจะปรับลดลงซึ่งจะส่งผลดีกับผู้ใช้ในปลายปีนี้” นายสรัญกล่าว
นายชวลิต พันธ์ทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจน้ำมันของ ปตท.ในอนาคตจะมุ่งเน้นการสร้างยอดขายในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน(นอลออยล์) มากขึ้น โดยในเดือนตุลาคมนี้ ปตท.ได้เตรียมเปิดแบรนด์ใหม่ในธุรกิจ
นอลออยล์ โดยจะเริ่มที่เอกมัยเป็นสาขาแรก ซึ่งมีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อคล้าย “จิฟฟี่” ของบริษัทที่มีอยู่เดิม แต่จะเน้นในเรื่องของร้านอาหาร ร้านค้า ร้านกาแฟอเมซอน และลดขนาดร้านสะดวกซื้อลง โดยอยู่รวมกันในอาคารเดียวกัน และที่สำคัญไม่ได้อยู่ในปั๊มน้ำมัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี