นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.จะยื่นหนังสือถึงนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน ในวันที่ 22 ก.ย. 2557 นี้ เพื่อขอให้ปรับเปลี่ยนแนวคิดของกระทรวงพลังงาน ที่จะยกเลิกการให้เงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในรูปแบบแอดเดอร์( เงินส่วนเพิ่มในการรับซื้อไฟฟ้า) แล้วเปลี่ยนมาเป็นระบบฟีทอินทารีฟ หรือ การให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริงระยะยาว 25 ปี
ทั้งนี้ ส.อ.ท. เห็นว่าระบบแอดเดอร์เหมาะสมอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางประการ ขณะที่ระบบฟีทอินทารีฟมีข้อเสียตรงที่การกำหนดให้เงินสนับสนุนคงที่ระยะยาว 25 ปีนั้น จะส่งผลให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด เนื่องจากในอนาคตราคาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการแพงขึ้นหรือถูกลงได้
“การกำหนดราคาตายตัวระยะยาว 25 ปี จะกลายเป็นความเสี่ยงของภาคเอกชนให้ต้องแบกรับภาระในอนาคตได้ และทำให้ปัจจุบันสถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยกู้ให้กับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ได้รับเงินสนับสนุนรูปแบบฟีทอินทารีฟด้วย นอกจากนี้ราคาวัสดุอุปกรณ์ด้านพลังงานทดแทนอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งกระทรวงพลังงานยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะคาดการณ์ราคาเทคโนโลยีระยะยาวได้”
นอกจากนี้ ส.อ.ท.ยังเสนอให้ปรับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ใหม่ จากปัจจุบันที่มีการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์จากโซล่าร์เซลล์บนหลังคา(โซล่าร์รรูฟท็อป)ไม่ถึง 10% ขณะที่การผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่(โซล่าร์ฟาร์ม)มีสัดส่วนถึง 90% นั้น ควรปรับสัดส่วนให้เหมาะสมโดยเพิ่มโซล่าร์รูฟท็อปเป็น 60% และลดโซล่าร์ฟาร์มเหลือ 40% ของการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ทั้งหมด เพื่อให้เกิดการส่งเสริมผลิตไฟฟ้าบนหลังคาให้มากขึ้นตามนโยบายรัฐต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี