รัฐมนตรีการค้าญี่ปุ่น หรือเมติ เดินสายพบรัฐมนตรีเศรษฐกิจไทย ล็อบบี้พาณิชย์ช่วยสนับสนุนการเจรจาอาเซียนบวก 6 ฟื้นการค้าระหว่างกัน พร้อมเข้าเจรจาอุตสาหกรรมขอลดภาษียานยนต์ ที่สูงกว่า 3,000 ซีซีอีกรอบ ด้าน”จักรมณฑ์”แทงกั๊กอ้างไทยลดภาษีให้ 6 ปีเสียรายได้ไปกว่า 1.7 หมื่นล้าน แต่ญี่ปุ่นให้กลับไม่คุ้ม ขอดูเงื่อนไขเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2557 นายไดชิโระ ยามากิวะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น หรือ เมติ ของญี่ปุ่นพร้อมคณะได้เดินทางเข้าพบนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์
โดยนางอภิรดีเปิดเผยว่ารัฐมนตรีการค้าญี่ปุ่นต้องการให้ประเทศไทย สนับสนุนกรอบการเจรจาการค้า อาเซียนบวก 6 ที่มีสมาชิก 16 ประเทศ เพื่อให้การเจรจาการค้าในอาเซียนบวก6 สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และเพื่อให้มีการขยายการค้าภายในกลุ่มอาเซียนบวก 6 เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเจรจาการอำนวยความสะดวกของสินค้า และแหล่งกำเนิดของสินค้า เพราะหากสามารถดำเนินการได้ให้เป็นรูปธรรม จะเป็นประโยชน์ต่อการค้าอาเซียน
ทั้งนี้ได้รับปากว่าประเทศไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือสนับสนุนอย่างเต็มที่ อีกทั้งทางญี่ปุ่นต้องการให้กรอบการเจรจาการค้า ไทย-ญี่ปุ่น ภายใต้กรอบความร่วมมือ เจเทปป้า สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการเจรจามานานกว่า 5 ปี เนื่องจากความไม่พร้อมของทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะปัญหาการเมืองภายในประเทศ
"กระทรวงพาณิชย์จะนำเรื่องการเจรจาการค้า ไทย-ญี่ปุ่น ภายใต้กรอบความร่วมมือ เจเทปป้า ไปหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพในการดูแลกรอบความร่วมมือ เจเทปป้า ซึ่งหากโครงการ เจเทปป้าเดินหน้าต่อไปจะทำให้การค้าไทย-ญี่ปุ่นมีความรวดเร็วมากขึ้น"
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าญี่ปุ่นยังมีความวิตกกังวล กรณีที่ไทยใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกับทางญี่ปุ่น โดยหากไทยใช้มาตรการดังกล่าวจะทำให้การเรียกเก็บอัตราภาษีสินค้าเหล็กสูงขึ้น ซึ่งญี่ปุ่นเห็นว่าจะกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตของไทยได้ นอกจากนี้การที่รัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยที่เข้ามาบริหารประเทศ โดยการไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทางญี่ปุ่นค่อนข้างมีความวิตกกังวลในเรื่องนี้พอสมควร
"ในเรื่องที่ทางญี่ปุ่นยังมีความวิตกกังวล เกี่ยวกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทางเราได้แสดงความมั่นใจไปแล้ว แม้ว่ารัฐบาลชุดดังดล่าวไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ก็บริหารงานในทุกๆ เรื่อง ได้ และอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย มีแนวทางการส่งเสริมการลงทุนที่ชัดเจน"
วันเดียวกันคณะดังกล่าวได้เข้าพบนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม โดยนายจักรมณฑ์กล่าวว่าทางญี่ปุ่นมีการขอเจรจาทบทวนข้อตกลงเจเทปป้าโดยญี่ปุ่นเสนอให้ไทยลดภาษีเพิ่มเติมในส่วนของยานยนต์ที่สูงกว่า 3,000 ซีซี หลังจากที่ไทยเคยลดภาษีไปแล้ว โดยปัจจุบันไทยเก็บภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่มยานยนต์สูงกว่า 3,000 ซีซี อยู่ในอัตรา 60% ซึ่งการพบปะครั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องการให้ไทยลดภาษีลงอีกครั้ง
“เดิมญี่ปุ่นเคยเสนองบประมาณให้ไทยในการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อแลกกับการลดภาษีเพิ่มเติม แต่จนถึงขณะนี้ทางไทยมองว่ายังเกิดความร่วมมือกันไม่มากนัก รวมทั้งเมื่อเทียบกับสิ่งที่ไทยได้รับจากญี่ปุ่นไม่คุ้มค่ากับภาษีที่ได้ลดให้ ซึ่งตั้งแต่ไทยลดภาษีให้กับญี่ปุ่นมา 6 ปี ไทยสูญเสียรายได้ไป 1.7 หมื่นล้านบาทหากเทียบเป็นมูลค่าที่ไทยได้รับจากญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นต้องมีการติดตามเรื่องนี้กับญี่ปุ่นต่อไปว่าจะมีการเจรจาหรือเพิ่มเติมอะไรให้กับไทยอีกหรือไม่” นายจักรมณฑ์กล่าว
นอกจากนี้ญี่ปุ่นได้ขอเจรจาที่จะเพิ่มปริมาณการนำเข้าเหล็กคุณภาพสูงภายใต้กรอบเจเทปป้าที่ปกติจะเจรจาปีต่อปีซึ่งในปี 2557 ญี่ปุ่นมีโควตาในการนำเข้า 1.2 ล้านตัน โดยญี่ปุ่นยังไม่ได้แจ้งปริมาณเหล็กในการนำเข้าว่าต้องการเท่าใดแน่ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องให้กระทรวงพาณิชย์ไปเจรจาในรายละเอียด โดยนับตั้งแต่ ปี 2550 ถึงครึ่งปีแรกปีนี้ไทยสูญเสียรายได้จากการยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กคุณภาพสูงประมาณ 5,974 ล้านบาท
นายจักรมณฑ์ กล่าวว่า สถานการณ์ยานยนต์ในปี 2558 จะขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้ที่ชะลอตัวลงจากการสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรก โดยประเมินว่าความต้องการรถยนต์ในปีหน้าจะสะท้อนอุปสงค์ที่แท้จริง ทำให้ภาพรวมการผลิตรถยนต์ของไทยตลอดปี 2558 ทั้งที่ผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออก น่าจะอยู่ที่กว่า 2 ล้านคัน ส่วนการผลิตรถยนต์ปี 2560 ที่กำหนดเป้าหมายสู่ระดับ 3 ล้านคันนั้นก็ยอมรับว่าอาจเป็นไปได้แต่ก็คงไม่ง่ายนักเนื่องจากจะต้องดูภาวะตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี