รง.ชงลอยตัวราคาน้ำตาลอิงตลาดโลก
ชี้มีเงินเข้ากองทุนฯหมื่นล้าน
หวังทำได้ฤดูการผลิตปี57/58
นายวิบูลย์ ผาณิตวงศ์ รองประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ได้นำเสนอแนวทางสนับสนุนลอยตัวราคาน้ำตาลทรายให้สะท้อนราคาตลาดโลก เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยหากเป็นไปได้ต้องการให้กำหนดนโยบายลอยตัวราคาในฤดูการผลิตปี 2557/2558 ต่อนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม และชาวไร่อ้อยที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศ หรือโควตา ก. เป็นราคาควบคุมดังนั้นแนวทางการลอยตัวราคา สามารถกำหนดให้อิงกับราคาตลาดโลก หรืออิงราคาน้ำตาลทรายดิบส่งออกที่บริหารโดยบริษัท อ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด หรือ อนท. บวกกับราคาน้ำตาลทรายขาว โดยแนวทางนี้ยังคงให้ชาวไร่อ้อยมีแหล่งเงินทุนสำหรับดูแลราคาอ้อย กรณีต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ด้วยการกำหนดให้มีการเก็บเงินจากปริมาณการจำหน่ายน้ำตาลทรายกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท เมื่อผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ยอยู่ที่ 10 ล้านตัน ก็จะได้เงินประมาณ 10,000 ล้านบาท เข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาล หรืออีกแนวทางหนึ่ง กรณีน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกเกิน 22 เซนต์ต่อปอนด์ ก็หักเข้ากองทุนฯ ซึ่งจะได้เงินจำนวนมากสะสมไว้ใช้
“ขณะนี้กองทุนฯมีรายได้จากการขึ้นราคาน้ำตาลทราย 5 บาทต่อ กก. ซึ่งเป็นรายได้ปีละ 12,000-13,000 ล้านบาท นำมาชำระหนี้ที่กู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่กู้เพิ่มค่าอ้อยที่ผ่านมา ผมคิดว่าถ้ามีแหล่งเงินการันตีว่าราคาอ้อยจะไม่ตก การลอยตัวราคาน้ำตาลจุดนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งเห็นว่าเราควรจะทำก่อนที่จะเข้าสู่ AEC เพื่อให้ได้ทดลองดูว่ามีอะไรต้องปรับ ก็จะได้เตรียมได้ทัน”นายวิบูลย์ กล่าว
แหล่งข่าวจากโรงงานน้ำตาล กล่าวว่า การลอยตัวราคาน้ำตาลทรายนั้น ตามหลักการแล้วควรจะลอยตัวในช่วงที่ราคาตลาดโลกต่ำ เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาขายปลีกที่ปรับขึ้นจนกระทบผู้บริโภค ซึ่งเห็นว่าปี 2557 นี้ราคาน้ำตาลตลาดโลกน่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว และปี 2558 แนวโน้มราคาปรับขึ้นสูง จากสต็อกน้ำตาลตลาดโลกที่เริ่มลดลงเหลือเพียง 3 ล้านตัน จากอดีตที่เคยสูงถึง 10 ล้านตัน
นายมนตรี คำพล ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า 4 องค์กรชาวไร่อ้อยได้หารือกับโรงงาน ถึงประเด็นการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายแล้วเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ยังไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่โรงงานเสนอ โดยเห็นว่าประเด็นหลักคือ กระทรวงพาณิชย์ควรเจรจาประเทศคู่ค้าอย่างอินโดนีเซีย ให้ลดกำแพงภาษีศุลกากรให้กับน้ำตาลไทย จากที่ปัจจุบันจัดเก็บกว่า 30% เพราะไม่เช่นนั้นไทยก็ไม่ได้ประโยชน์ในการเข้าสู่ AEC ดังนั้นการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายในฤดูการผลิตนี้ จึงไม่ควรทำ แต่ฤดูการผลิตปี 2558/2559 น่าจะดำเนินการได้ เพราะเป็นช่วงที่คาดว่าราคาน้ำตาลตลาดโลกน่าจะดีขึ้นกว่านี้
ทั้งนี้ยอมรับว่าการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2557/2558 ยังไม่สามารถตั้งตัวเลขได้ เพราะราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกเฉลี่ยลดลงเหลือ 17 เซนต์ต่อปอนด์ คำนวณราคาอ้อยจะได้ไม่ถึง 800 บาทต่อตัน ขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ 1,200 บาทต่อตัน ขาดทุนเฉลี่ยถึงตันละ 400 บาท ยอมรับว่าที่สุดก็ต้องกู้เงินมาอุดหนุนราคาเช่นเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี