กรมการค้าต่างประเทศ ใช้สารพัดวิธีดันตัวเลขส่งออก ล่าสุดวางยุทธศาสตร์เจาะลูกค้าต่างประเทศโดยผ่าน “ทีวีช้อปปิ้ง-ห้างสรรพสินค้า” ส่วนวันที่ 18-21 ต.ค. เชิญ“ทูตพาณิชย์” มาร่วมประเมินแนวโน้มการค้าช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กระทรวงพาณิชย์ ว่า ในวันที่ 29 ก.ย.2557 นี้ เวลา 11.00น.กระทรวงพาณิชย์ จะแถลงตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.2557 ในเบื้องต้นเป้าหมายการส่งออกปี 2557 ยังคงเป้าไว้ที่ 3.5% ส่วนในปี 2558 คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4% ซึ่งต้องจับตาว่าจะมีการทบทวนตัวเลขหรือไม่หลังจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดย คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ได้พิจารณาปรับลดอัตราการเติบโตการส่งออกในปี 2557 ลงมาอยู่ที่ 0% ต่อปี จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะโต 3% ต่อปี ส่วนปีหน้า คาดว่าการส่งออกโต 4% จากเดิมที่คาด 6% ต่อปี เนื่องจากการส่งออกสินค้าฟื้นตัวช้าจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวลงเล็กน้อยโดยเฉพาะกลุ่มประเทศยูโร และญี่ปุ่น และปัจจัยอื่นๆ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการส่งออกปี2557นั้น ในวันที่ 18-21 ต.ค. 2557 กรมฯ จะเชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(ทูตพาณิชย์) ให้มารับฟังนโยบายจาก รมว.พาณิชย์ และร่วมกันประเมินสถานการณ์การส่งออกที่เหลือของปีนี้ และประเมินแนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยในปี2558 ด้วย รวมทั้งร่วมกันจัดทำมาตรการส่งเสริม และผลักดันการส่งออกร่วมกับภาคเอกชน โดยการวางกลยุทธ์และเป้าหมายแต่ตลาดส่งออกจะให้ทูตพาณิชย์ทำแผน
ในเบื้องต้นจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทางการค้าการลงทุนและภาคเอกชน 3 สถาบัน คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย พร้อมด้วยสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และตัวแทนกลุ่มสินค้าจากสมาคมต่างๆ เพื่อร่วมกันระดมสมองถึงสถานการณ์ แนวโน้มปัจจัยที่มีผลต่อการค้าการส่งออก โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศเกิดขึ้นหลายประเด็นและไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงมาตรการเร่งรัดผลักดันการส่งออกรายภูมิภาคในช่วงไตรมาสสุดท้าย(ต.ค.- ธ.ค.2557)
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้จัดทำยุทธศาสตร์ 8 ข้อในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทย ตามนโยบายของพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เพื่อนำมาเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกให้กับสินค้าและบริการของไทย และผลักดันให้การส่งออกมีอัตราการขยายตัวในอัตราที่ดี โดยกรมฯ จะให้ความสำคัญในการใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิตอลและรูปแบบการค้าสมัยใหม่อื่นๆ มาสนับสนุนการส่งออก เช่น การค้าขายผ่านทีวีช้อปปิ้ง และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของต่างประเทศ เนื่องจากวิธีนี้สามารถเจาะตลาดผู้บริโภคได้โดยตรง
รวมถึงจะมีการใช้ยุทธศาสตร์อื่น เช่น การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ) และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) โดยจะผลักดันให้ผู้ส่งออกเข้าไปทำตลาดในประเทศที่ทำเอฟทีเอ และอาเซียนให้มากขึ้น ซึ่งมี ข้อมูลด้านการค้าและการลงทุนที่เจาะลึก และยังมีศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียนถึง 9 แห่ง ที่จะคอยให้บริการ รวมถึงยังจะมีการเพิ่มกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการสั่งซื้อสินค้าไทย ทั้งการจัดไทยแลนด์ วีค การจัดคณะผู้แทนการค้าไปทำตลาดแบบเจาะจง และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
“การ สร้างภาพลักษณ์ประเทศก็ยังถือเป็นว่ายุทธศาสตร์ที่สำคัญในการส่งออกเช่นกัน เพราะสามารถผลักดันให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าและบริการไทยมีความเชื่อมั่น ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ ประกอบกอบการรุกตลาดส่งออกในหลายช่องทางก็จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนการส่งออก ได้เป็นอย่างดี" นางนันทวัลย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี