เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า ตลาดหลักร่วงถ้วนหน้า ฉุดส่งออกเดือนสิงหาคมย่ำแย่ติดลบ 7.40% ต่ำสุดในรอบ 32 เดือน ด้านพาณิชย์รับสภาพทั้งปีหมดสิทธิ์แตะเป้า3.5% ลุ้นคำสั่งซื้อเข้าช่วงไตรมาสสุดท้ายพร้อมอัดมาตรการเสริม ช่วยประคองไม่ให้ถึงขั้นติดลบขอแค่โต 0-1.5%
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย ประจำเดือนสิงหาคม 2557ว่าตัวเลขการส่งออกรวมในเดือนสิงหาคมมีมูลค่า 18,943 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน 7.40% ซึ่งเป็นการหดตัวต่ำสุดในรอบ 32 เดือนหรือกว่า 2 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 เนื่องจากสินค้าส่งออกหลักติดลบ ทั้งทองคำลดลง 92.9% มูลค่าหายไป 956 ล้านเหรียญสหรัฐฯ น้ำมันสำเร็จรูปลดลง 16.1% มูลค่าหายไป 226 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยางพาราลดลง 23.3% มูลค่าหายไป 134 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นต้น
ประกอบกับตลาดส่งออกของไทยลดลงในทุกตลาด โดยตลาดหลักลดลง 4.3% มูลค่า 5,395 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดศักยภาพสูงลดลง 5.2% มูลค่า 9,734 ล้านเหรียญสหรัฐฯตลาดศักยภาพระดับรอง ลดลง 10.1% มูลค่า 3,637 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และตลาดอื่นๆ ลดลง 65.1% มูลค่า 177 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนการส่งออกช่วง 8 เดือน(มกราคม-สิงหาคม 2557) มีมูลค่า 150,543.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน 1.36%
“ในเดือนสิงหาคม 2556 เป็นช่วงที่มีการเร่งส่งออกทองคำ เพื่อทำกำไร แต่ปัจจุบันแนวโน้มการลงทุนทองคำชะลอตัวรวมทั้งจีน นำเข้าทองคำจากฮ่องกงที่เป็นตลาดส่งออกทองคำสำคัญของไทยลดลง โดยตลาดสำคัญอย่างสวิตเซอร์แลนด์ และ ฮ่องกง ที่มีสัดส่วน 61.4% ของมูลค่าส่งออกทองคำรวม หดตัวสูงถึง 91.9% และ 95.7% ตามลำดับ”
การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมกลับมาหดตัว การส่งออกเดือนสิงหาคมในภาพรวมสินค้าในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวที่ 2.7%จากการขยายตัวของการส่งออกในหลายสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะ ข้าว ผัก ผลไม้สด แช่แข็งและแปรรูป ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป และน้ำตาลที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งสินค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่กลับมาขยายตัว ตามความต้องการในตลาด จีนและอินโดนีเซีย
ขณะที่สินค้าส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมกลับมาหดตัว 8.7% ตามการหดตัวในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ ยานพาหนะ และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศ เม็ดพลาสติก และสิ่งทอ โดยเฉพาะกลุ่มยานพาหนะ และส่วนประกอบ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 12.8% ของมูลค่าส่งออกรวม กลับมาหดตัว 8.9% เนื่องจากอินโดนีเซียมีมาตรการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ในภายในประเทศ ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์บางส่วนย้ายไปเพิ่มการผลิตในตลาดอินโดนีเซียแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ไทยส่งออกรถยนต์นั่งขนาดต่ำกว่า 1,500 ซีซี ไปตลาดอินโดนีเซียลดลง
นางนันทวัลย์ กล่าวถึงเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 3.5%นั้นคงไม่ได้โดยจะมีการปรับลดเป้าหมายอีกครั้ง ภายหลังการประชุมและหารือกับนักวิชาการ ภาคเอกชน ทูตพาณิชย์ ครั้งแรกในวันที่ 18 ตุลาคมนี้รวมทั้งจะมีการหารือกับทูตพาณิชย์ทั่วโลกในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ด้วย
"เราหวังว่าส่งออกจะได้ 0.5-1%ไม่ถึงขั้นติดลบ แต่จะเป็นตัวเลขเท่าไหร่ ตอนนี้ยังคงตอบอะไรไม่ได้ ขอให้ผ่านการประชุมกับนักวิชาการทูตพาณิชย์ถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน การค้าโลกจะไปในทิศทางไหนก่อน รวมถึงจะมีมาตรการใหม่อะไรออกมาสนับสนุนบ้าง เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ และปรับเป้าการส่งออกต่อไป"
“การส่งออก 3 เดือนที่เหลือของปีอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ เพราะเดิมคิดว่าจะดี แต่ตลาดส่งออกหลักๆก็ไม่ดี เศรษฐกิจโลกไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ ยังคงชะลอตัวอยู่ แต่ก็คาดว่าในไตรมาสที่ 4 การส่งออกจะดีขึ้น มีคำสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามา แต่อาจเติบโตแบช้าๆ ไม่รวดเร็วแบบที่คาดการณ์ไว้ตอนแรก”นางนันทวัลย์ กล่าว
ในส่วนของการนำเข้ารวมเดือนสิงหาคมมีมูลค่า 17,797.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน 14.17% และระยะ 8 เดือน มีมูลค่า 150,263.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 12.69% โดยการนำเข้าที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงตลาดโลกที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเท่าที่ควร รวมถึงสะท้อนว่าตลาดในประเทศก็ไม่ดีด้วย ทั้งนี้จึงส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศในเดือนสิงหาคมเกินดุลการค้ารวม 1,146.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในระยะ 8 เดือน เกินดุลการค้ารวม 280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี