นายพรชัย รุจิพรประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร(ไอซีที) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2557 ได้ตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายให้ คณะกรรมการ(บอร์ด) และผู้บริหารระดับสูงบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)โดยได้มอบหมายให้บอร์ด และฝ่ายบริหารไปเร่งจัดทำโครงสร้างธุรกิจ 6 กลุ่มได้แก่
1.โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 2. โครงสร้างเสาโทรคมนาคม 3. บริการอินเตอร์เนตเกตเวย์ และเคเบิลใต้น้ำ 4.ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ 5. ธุรกิจอินเตอร์เนตความเร็วสูง และโทรศัพท์พื้นฐานประจำที่ และ 6. บริการไอที ไอดีซี และคลาวด์ ซึ่งเป้นไปตาม ตามมติคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.)หรือซูเปอร์บอร์ด ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ขณะเดียวกันต้องเจรจาหารือกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)เพื่อร่วมมือกันธุรกิจด้วย เช่น โครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (ไฟเบอร์ ออฟติก) ทีโอทีมีอยู่ 84,000 กม.ขณะที่ กสทมี 35,000 กม. ถือว่าเป็นโครงข่ายที่ยาวที่สุดของประเทศไทย ฉะนั้นหากสามารถบริหารจัดการและทำธุรกิจร่วมกันได้ ก็จะสร้างรายได้ให้ทั้งสององค์กร
ส่วนประเด็นที่ ทีโอที ต้องการใช้คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ(MHz) ต่อไปหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานมือถือในปี2558 ได้มอบหมายให้ คณะกรรมการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับโทรคมนาคมทั้งระบบ ชุดที่มี นางเมธินี เทพมณี ปลัดกระทรวงไอซีที เป็นประธานศึกษาการนำคลื่น 900 มาบริหารจัดการหลังสัมปทานกับเอไอเอสสิ้นสุดลงเช่นกัน
“เมื่อมารับทราบข้อมูลแล้ว ก็พบว่าเป็นองค์กรที่มีศักยภาพ สามารถทำธุรกิจได้ แต่ปัญหาต่างๆ ของทีโอที จะต้องจัดการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ หากปล่อยให้ยืดเยื้อ ก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จึงได้เร่งรัดบอร์ดและได้จ้างที่ปรึกษาในการศึกษาการปรับโครงสร้างธุรกิจ คาดว่าภายใน 3 เดือนจะเห็นแนวทางชัดเจน และ 5-6 เดือนข้างหน้า”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี