ชาวกระบี่มีทั้งหนุน-ค้านโรงไฟฟ้า
กฟผ.เล็งสรุปความเห็น
ชง “สวล.”อนุมัติปี’58
นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยภายหลังกฟผ.รับฟังความเห็นประชาชนถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ)โครงการสร้างท่าเทียบเรือถ่านหินบ้านคลองรั้ว และโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดขนาด 870 เมกะวัตต์ จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 3 หรือ ค.3 ในวันที่ 12 ต.ค.2557 ที่ผ่านมา ว่า กฟผ.ได้รับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ประมาณ 65 คนมีทั้งผู้เห็นด้วยและผู้ไม่เห็นด้วย ซึ่งทางกฟผ.ได้รวบรวมข้อมูลไว้คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 เดือนนำผลสรุปจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 3 ครั้งนำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สวล.) เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป เชื่อว่า ขั้นตอนทั้งหมดนี้จะเสร็จสิ้นภายในกลางปี 2558 หากสวล.อนุมัติ คาดว่า การก่อสร้างจะเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (พีดีพี 2010) ปรับปรุงครั้งที่ 3 ที่กำหนดจ่ายไฟเข้าระบบได้ในปี 62
“หลังจากเปิดรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่ครั้งที่ 3ก็มีประชาชนเข้ามาฟังมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และประชาชน ต้องการให้บรรจุความเห็นของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยเสนอให้
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ เข้าไปด้วย ส่วนจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสวล. เราไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ ซึ่งการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ เติบโตทุกปีเฉลี่ย 6% แต่การผลิตน้อยกว่าความต้องการที่ผ่านมา เราจึงต้องส่งไฟจากภาคกลาง ผ่านระบบส่งไปป้อนให้ เพื่อความมั่นคงและป้องกันไฟตกดับ เราจึงต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มและการเลือกถ่านหินสะอาดก็เพราะมีค่าไฟฟ้าที่ต่ำหากเทียบกับเชื้อเพลิงอื่นๆ และมีความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงที่ถ่านหินมีสำรองมาก ”นายสหรัฐ กล่าว
ด้าน นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ว่า ได้อนุมัติโครงการรับซื้อไฟฟ้าต่อเนื่อง โดยมีการพิจารณาตอบรับซื้อไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด อาทิ จะต้องมีจุดเชื่อมโยงกับระบบส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้า หรือระบบส่งที่ชัดเจน ผ่านความเห็นชอบด้านเทคนิคจาก กฟผ. มีแผนการดำเนินการที่เหมาะสมและชัดเจนและมีกำหนด SCOD ที่แน่นอน เป็นต้น
ทั้งนี้ที่ประชุมได้อนุมัติให้มีการตอบรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม จำนวน 27 โครงการ โดยมีปริมาณไฟฟ้าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 202.09 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล 18 โครงการ รวม 82.14 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพ 6 โครงการ รวม 13.95 เมกะวัตต์ และขยะ 3 โครงการ รวม 106 เมกะวัตต์ สามารถเสริมความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าในปี 2559 ได้เป็นอย่างดี โดยแบ่งเป็นภาคเหนือ 21.66 เมกะวัตต์ ภาคกลางและภาคตะวันออก 121.28 เมกะวัตต์ และภาคใต้ 59.15 เมกะวัตต์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี