ภาค‘ขนส่ง’ส่อจุกหนัก
ขึ้นราคาLPG
กบง.เคาะปรับอีกโลละ63สต.
แตะ22.63บ.เท่าก๊าซครัวเรือน
‘พลังงาน’ยันลุยขยับต่อเนื่อง
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมว่า ที่ประชุม กบง.พิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง และเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวสะท้อนตามกลไกตลาด จึงขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันให้พิจารณาลดราคาขายปลีกน้ำมันน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลลงให้ผู้บริโภค คาดว่าผู้ค้าน้ำมันจะปรับลดราคาน้ำมันลงประมาณ 0.50 สตางค์
ในส่วนน้ำมันดีเซล กบง.เห็นชอบปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.70 บาท/ลิตร จากเดิม 3.00 บาท/ลิตร เป็น 3.70 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม โดยไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ที่ยังคงอยู่ 29.39 บาท/ลิตร ซึ่งการปรับเพิ่มเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯของดีเซลนี้ เพื่อให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯเป็นบวกเร็วขึ้นภายใน 10 วัน และสามารถดำเนินการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในอนาคต ซึ่งการจัดเก็บกองทุนฯให้สูงขึ้น เพื่อให้มีวงเงินดูแลเสถียรภาพราคาพลังงานแล้ว หลังจากนั้นจะลดการจัดเก็บให้เหมาะสม
รมว.พลังงานกล่าวต่อว่า ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯของน้ำมันดีเซลครั้งนี้ จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นประมาณ 1,094 ล้านบาท/เดือน จากเดิมมีรายรับ 5,122 ล้านบาท/เดือน เป็นมีรายรับ 6,216 ล้านบาท/เดือน โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม ยังคงมีฐานะสุทธิติดลบประมาณ 1,985 ล้านบาท
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยราคาปิดตลาด ณ วันที่ 17 ตุลาคม น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 85.05 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 99.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซล อยู่ที่97.62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม จากสถิติช่วง 8 เดือนแรกของปี 2557 พบว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนนำเข้าน้ำมันดิบร้อยละ 85 ของการจัดหาน้ำมันดิบทั้งหมดของประเทศ กระทรวงพลังงานจึงขอความร่วมมือประชาชนใช้พลังงานอย่างประหยัด เพื่อช่วยรัฐลดภาระดังกล่าวลง
นายณรงค์ชัยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง. เห็นชอบให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง 2543 ซึ่งจำหน่ายก๊าซ LPG ให้ภาคขนส่งต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯเพิ่มในอัตรา 4.2056 บาท/กก. ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 0.63 บาท/กก. จากเดิมราคา 22.00 บาท/กก. เป็น 22.63 บาท/กก. เท่าราคาภาคครัวเรือน มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมเป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ LPG ข้ามกลุ่ม และแก้ปัญหานำถังก๊าซครัวเรือนไปบรรจุตามสถานีบริการแอลพีจีซึ่งเป็นอันตราย และในส่วนของแอลพีจีทั้งระบบขอย้ำว่า จะทยอยปรับขึ้นอีกสะท้อนต้นทุนที่ปัจจุบันมีทั้งการนำเข้าจากต่างประเทศ การผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โดยราคาขายปลีกสุดท้ายจะปรับขึ้นไปถึงระดับ 27 บาท/กก.หรือไม่ยังบอกไม่ได้ โดยล่าสุดราคาตะวันออกกลางลดลงมาอยู่ที่ 747 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และราคาต้นทุนเฉลี่ยแอลพีจีที่ยังไม่รวมภาษีและการตลาดแล้ว ต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 20 บาท/กก.
อย่างไรก็ตาม วันที่ 22 ตุลาคมจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)เพื่อพิจารณาโครงสร้างราคาทั้งหมด โดยราคาก๊าซเอ็นจีวีก็จะทยอยปรับขึ้นสะท้อนต้นทุน ส่วนน้ำมันและแอลพีจีก็เช่นกัน โดยดูภาพรวมผลกระทบทั้งหมดด้วย รวมทั้งเสนอจัดตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงภาคขนส่ง โดยมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวันเดียวกัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 50 สตางค์/ลิตร ยกเว้น E85 E20 และดีเซลราคายังคงเดิม ตามที่มีการปรับเปลี่ยนการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน โดยมีผลวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปขายปลีกของ ปตท.และบางจาก เป็นดังนี้ เบนซิน 95 อยู่ที่ 42.86 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 35.80 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 33.78 บาท/ลิตร, E20 อยู่ที่ 32.48 บาท/ลิตร และ E85 อยู่ที่ 22.88 บาท/ลิตร ส่วนดีเซลอยู่ที่ 29.39 บาท/ลิตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี