น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทย 41 ราย ซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่ยื่นขออนุญาตครั้งแรก 21 ราย โดยนำเงินเข้ามาลงทุนในการประกอบธุรกิจ 2,065 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทย 589 คน
“ในเดือนตุลาคม 2557 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง21% จากเดือนกันยายน 2557 และเงินลงทุนลดลง 41,793 ล้านบาทเนื่องจากในเดือนกันยายน 2557 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจบริการทางการเงินอื่น ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง” น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว
สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่มและบริษัทคู่ค้า 25 ราย คิดเป็น 61% ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต มีเงินลงทุน 1,672 ล้านบาท ประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ จีน ไอร์แลนด์ ไต้หวัน สวีเดน และเยอรมนี, ธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง 7 ราย คิดเป็น 17% มีเงินลงทุน 44 ล้านบาทประเทศที่ได้รับอนุญาต คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฝรั่งเศส
ธุรกิจสำนักงานผู้แทน 6 ราย คิดเป็น 15% ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต มีเงินลงทุนจำนวน 18 ล้านบาท ประเทศที่ได้รับ
อนุญาต ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์, ธุรกิจนายหน้าตัวแทน 2 ราย คิดเป็น 5% มีเงินลงทุน 56 ล้านบาท ประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ สิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มกราคม-ตุลาคม 2557 คณะกรรมการได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยแล้ว 354 รายมีเงินลงทุนรวม 60,142 ล้านบาท เมื่อเเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ปรากฏว่าจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้น 7% และเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 44,543 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี