แหล่งข่าวจาก คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช.เห็นควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ. 2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ด้วยการปรับปรุงโครงสร้าง กสทช.โดยเสนอให้มีคณะกรรมการเพียงคณะเดียวคือ กสทช.เพื่อทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้เกิดเอกภาพนั้นพบว่า ในส่วนของบอร์ดกสทช.ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบเรื่องมาก่อน
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวจาก กสทช.มองว่า หากจะมีการแก้ไขให้รวบอำนาจบริหารให้ทุกเรื่องต้องผ่านมติความเห็นชอบของบอร์ดกสทช.ทั้ง 11 คนในส่วนตัวไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะตามวัตถุประสงค์ของบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญก็ให้ กสทช.แยกหน้าที่อำนาจการบริหารงาน แต่เมื่อมีการรัฐประหารจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ดังนั้นการแก้อำนาจการบริหารก็ไปแก้ที่พ.ร.บ.กสทช.ได้โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ตั้งแต่มีคสช.มานั้นการรับนโยบายการทำงาน และการประสานงานกับคสช.มีเพียงพล.อ.อ.ธเรศ ประธานกสทช.และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.เท่านั้นที่รับทราบนโยบาย ซึ่ง สำนักงานกสทช.ก็จะรวบรวมเข้ามาเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดรับทราบและให้ดำเนินงานตามคำสั่งของคสช.เท่านั้น
อย่างไรก็ดี จากการหารือเบื้องต้นกับนายฐากร เลขาธิการกสทช.ทราบว่าขณะนี้ได้เริ่มกระบวนการแก้กฎหมายแล้ว คาดว่าในเร็วๆ นี้ จะเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และภายใน 2 เดือนหรือต้นปี 2558 จะเริ่มเห็นความชัดเจนของแนวทางการปรับแนวทางการบริหารงานของกสทช.
ก่อนหน้านี้ นายฐากรชี้ว่า การแยก กรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) และ กรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) พบว่า ต่างฝ่ายต่างยึดกฎหมายคนละฉบับส่งผลให้อำนาจของบอร์ด กสทช. ไม่ชัดเจน จึงเป็นที่ผ่านมาของการแก้กฎหมายดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี