นายรัตนชัย นามวงศ์ รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.เตรียมแผนงานลงทุนไว้ กว่า 1 แสนล้านบาท สำหรับก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวฉบับปัจจุบัน และสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน และต้องก่อสร้างให้เสร็จเพื่อส่งไฟฟ้าเข้าระบบภายใน 10 ปี ข้างหน้า กว่า 8,744 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ในส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนมีทั้งหมด 1,844 เมกะวัตต์ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 57.25 เมกะวัตต์ พลังงานลม 78 เมกะวัตต์ ที่เขายายเที่ยง เขื่อน ลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา พลังงานชีวมวล 4 เมกะวัตต์ ที่ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กตามพื้นที่เขื่อนต่าง ๆ
ส่วนโรงไฟฟ้าใหม่และโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าที่หมดอายุ ในส่วนนี้จะมีกำลังผลิต 6,360 เมกะวัตต์ จะต้องก่อสร้างและเข้าระบบปี 2565 ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทนโรง 4-7 กำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ทดแทน 1,300 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำลำตะคองแบบสูบกลับโรงที่ 2 กำลังผลิต 500 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ 800 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา 2,000 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าเขื่อนศรีนครินทร์ ทดแทน 360 เมกะวัตต์
“โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ขนาด 800 เมกะวัตต์ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งจะมีการจัดทำแผนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ อีเอชไอเอ เพื่ออนุมัติตามขั้นตอนต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ ประมาณปลายปี 2562 หลังจากนั้นในปี 2565 จะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา ขนาด 1,000 เมกะวัตต์ และในปี2568 จะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา โรงที่2 อีก1,000 เมกะวัตต์ โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหิน เทพา นั้น จะมี การจัดเวทีกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพโดยสาธารณะ (ค.1) (Public Scoping) ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา (โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด) และโครงการท่าเทียบเรือสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2557 นี้”
นายรัตนชัย กล่าวว่า ในส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหินที่บีแอลซีพี เสนอจะก่อสร้างโรงที่ 2 จังหวัดระยองนั้น ทางบีแอลซีพีเสนอว่าขอให้ กฟผ.ร่วมทุนในลักษณะรัฐเอกชนหรือพีพีพี ซึ่งจะทำให้อยู่ในส่วนที่ กฟผ.จะต้องก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4,000 เมกะวัตต์ โดย กฟผ.ยังอยู่ระหว่างหาพื้นที่ใหม่ เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอีก 1,200 เมกะวัตต์ ในส่วนนี้คงต้องพิจารณาว่าจะสามารถดำเนินการร่วมกับบีแอลซีพีได้หรือไม่
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.ได้มีการจัดส่งข้อเสนอไป ยังกระทรวงพลังงานเพื่อใช้ในการพิจารณาจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ หรือพีดีพี2015 ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2558-2579 แล้วโดยประเด็นสำคัญคือการเพิ่มสัดส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 18% ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตไฟฟ้าที่มีการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ ที่มากเกินไปคือประมาณ 68% โดยที่กฟผ.จะเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี