รมว.คลัง เตรียมถกด่วน “หม่อมอุ๋ย” หลังพบว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติมกม.แพ่งและพาณิชย์ปกป้องผู้ค้ำประกันเงินกู้ ห่วงกระทบธนาคารพาณิชย์ ไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ เหตุห้ามทวงหนี้ ยันต้องเร่งตัดไฟแต่ต้นลม ก่อนมีผลบังคับใช้ต้นเดือน ก.พ.ปีหน้า
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับนักกฎหมายเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... ว่าด้วย ค้ำประกัน และจดจำนอง ซึ่งที่ผ่าน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ได้พิจารณาผ่านทั้ง 3 วาระแล้ว ทำให้จะมีผลบังคับในวันที่ 7 ก.พ.2558
“พบว่าร่างฯฉบับนี้มีการปกป้องผู้ค้ำประกันเงินกู้มากขึ้น ไม่ให้เจ้าหนี้มีการทวงหนี้กับผู้ค้ำประกัน ทำให้กระทบกับการดำเนินของธนาคารพาณิชย์ และเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง โดยจะต้องหาทางการแก้ไขเป็นการด่วนก่อนกฎหมายจะมีผลบังคับใช้”
ทั้งนี้ จากการหารือกับนักกฎหมายเอกชนชั้นนำของประเทศ ได้รับการยืนยันว่าการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มีปัญหาทั้งหมดจริง ซึ่งได้รับคำแนะนำเบื้องต้นว่าต้องออกกฎหมายใหม่ เพื่อไปแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทำให้กระทรวงการคลัง ต้องเร่งหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นการด่วน เพื่อให้ได้ข้อสรุปอย่างเร็วที่สุด
สำหรับพ.ร.บ.ดังกล่าวพบว่ามีปัญหาทำให้ ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้กับคนทั่วไปได้ยากขึ้น เพราะต้องตรวจสอบว่าลูกหนี้จะชำระหนี้ได้จริง เนื่องจากไม่สามารถไปตามทวงหนี้จากผู้ค้ำประกันได้เหมือนที่ผ่านมาหากลูกหนี้ชำระไม่ได้
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาถึงเรื่องการค้ำประกันปล่อยกู้ไม่ได้มีแต่บุคคลเป็นผู้ค้ำประกันเท่านั้น แต่ธนาคารพาณิชย์เองก็เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้เหมือนกัน เช่น มีผู้ประกอบการจะลงทุนในโครงการใหญ่ของรัฐ หรือไปรับจ้างเอกชนด้วยกัน ก็ต้องไปขอให้หนังสือค้ำประกันฐานะทางการเงินกับธนาคารพาณิชย์ทั้งนั้น ซึ่งการแก้กฎหมายดังกล่าวมีผลทำให้การค้ำประกันของธนาคารพาณิชย์ไม่มีความหมายไปด้วย ซึ่งทำให้ธนาคารไม่มีเครดิตที่จะค้ำประกันอะไรได้อีกต่อไป ส่วนผู้ประกอบการต่างๆ ที่ต้องใช้หนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินก็จะมีปัญหาการประมูลงานด้วยเช่นกัน
“ปัญหาของการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ไปคิดเพียงว่าการค้ำประกันเงินกู้ มีแต่บุคคลเพียงอย่างเดียว ลืมประเด็นว่าการค้ำประกันมีสถาบันการเงินเป็นผู้ค้ำประกันการกู้ด้วย ซึ่งหลังจากนี้ ผมยังมีเวลาอีก 2 เดือน ที่จะแก้ไขเรื่องนี้ เพราะกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.พ. 2558 ถือเป็นบทเรียนที่ต้องพิจารณาให้ดี โดยเฉพะสมาชิกสนช. ที่มาจากด้านการเงินและเศรษฐกิจ จะต้องพิจารณากฎหมายให้ดีก่อนที่จะมีผลบังคับใช้”
นายสมหมายกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวที่ผ่านมายังเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นเรื่องที่มีคนสงสัย บางคนยังไม่รับรู้ถึงเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อเกิดปัญหา และหากแก้ปัญหาใหญ่นี้ไม่ทัน จะทำให้กระทบรุนแรงกับการเงินการลงทุนของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยมีปัญหาเพิ่มขึ้น ในช่วงที่เศรษฐกิจของไทยต้องเร่งเรื่องการลงทุน และการใช้จ่ายภาครัฐมากขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี