นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมหารือร่วมกับ 3 สมาคมภาคอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุด และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลผลกระทบจากการออกพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยจะเตรียมนัดหมายในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้การออกร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีการกำหนดอัตราเพดานสูงสุดไว้ที่ 4% แต่การจัดเก็บจริงอาจต่ำกว่านั้น โดยจะออกมาในรูปแบบของกฎหมายรอง เพื่อให้เกิดความสมดุลและความเป็นธรรมกับเจ้าของที่ดิน ซึ่งจะออกมาในลักษณะอัตราก้าวหน้าที่ไม่เกินเพดานจัดเก็บสูงสุด
“กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีการปรับฐานจากภาษีโรงเรือนและบำรุงท้องที่ให้เป็นฐานที่ยืนยาว แต่การจัดเก็บจะค่อยเป็นค่อยไป แม้มีการกำหนดอัตราเพดานสูงสุด 4% แต่การจัดเก็บจริงจะต่ำกว่านั้น เป็นอัตราก้าวหน้าไม่เกินอัตรา 4% ซึ่งจะต้องดูความสมดุลทุกฝ่ายด้วย” นายวิสุทธิ์ กล่าว
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะไม่กระทบกับธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะจะมีความสมดุลในการจัดเก็บ โดยปัจจุบันภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ยังสามารถเติบโตได้ดี ยังไม่มีแนวโน้มที่ผิดปกติ ซึ่งจากข้อมูลใน 10 เดือนของปี’57 ที่ผ่านมา ธุรกิจที่อยู่อาศัยบ้านจัดสรรมีอัตราเติบโต 8% หรือเท่ากับ 38,000 ยูนิต และคาดว่าในปลายปีจะเพิ่มเป็น 45,000 ยูนิต
ขณะที่คอนโดมิเนียม มีอัตราลดลง 20% เนื่องจากปีที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่จำนวนมากโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ทำให้ฐานมีขนาดใหญ่ ปัจจุบันมียอดขาย 65,000 ยูนิต ต่ำกว่าปีก่อน ที่ปิดการขาย 85,000 ยูนิต ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้โดยที่ภาครัฐไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม
“ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ ยังเติบโต โดยความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 คิดเป็น 38,000 ยูนิต คาดว่าทั้งปีจะเพิ่มเป็น 45,000 ยูนิต ขณะที่คอนโดมิเนียม ลดลงร้อยละ 20 เนื่องจากปีที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่จำนวนมากโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ปัจจุบันมียอดขาย 65,000 ยูนิต ต่ำกว่าปีก่อน ที่มียอดการขาย 85,000 ยูนิต ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้โดยที่ภาครัฐไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม”
รมช.คลัง กล่าวว่า ในขณะนี้ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ได้มอบหมายในการกำกับดูแลหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ประกอบด้วย กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร กรมบัญชีกลาง กรมธนารักษ์ และรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ยกเว้นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) โดยจะเชิญผู้บริหารแต่ละหน่วยงานมาหารือร่วมกันเพื่อกำหนดนโยบายการทำงานให้เป็นทิศทางเดียวกันต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี