นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ บลจ.กสิกรไทย ได้เสนอขายกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 1 (KEET1) ไปเมื่อวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2557 ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายแรกที่กำหนดไว้ โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา กองทุน KEET1 มีมูลค่าหน่วยลงทุนแตะที่ระดับ 10.4350 บาทต่อหน่วย โดยใช้ระยะเวลาบริหารเพียง 4 เดือน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของกองทุน ที่ระบุว่า บลจ.กสิกรไทยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.40 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 4% ดังนั้น บลจ.กสิกรไทยจึงทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในวันที่ 4 ธันวาคม 2557 และจะชำระเงินค่าขายคืนให้กับผู้ลงทุนในราคาไม่ต่ำกว่า 10.40 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 11 ธันวาคม 2557
สำหรับกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 1 (KEET1) มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักต่างประเทศ คือ กองทุน iShares STOXX Europe 600 (DE) ซึ่งบริหารจัดการโดย iShares บริษัทผู้นำในกลุ่มกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยกองทุนหลักดังกล่าวจะมุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี The STOXX Europe 600 (EUR) ที่ประกอบไปด้วยหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรปทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวน 600 หุ้น จาก 18 ประเทศทั่วทวีปยุโรป
ทั้งนี้ กองทุน KEET1 ตั้งเป้าหมายที่จะให้ผู้ลงทุนได้โอกาสรับผลตอบแทนที่ 8% ภายใน 1 โดยกำหนดเป้าหมายแรกที่ 4% หรือเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.40 บาทต่อหน่วย และกำหนดเป้าหมายต่อมาอีก 4% หรือเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.95 บาทต่อหน่วย ซึ่งบลจ.กสิกรไทยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งหมดและเลิกกองทุนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าถึงระดับดังกล่าว
“สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปมีการปรับตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่ามาจากการที่ตลาดมีความคาดหวังต่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ได้ส่งสัญญาณเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและอาจจะขยายมาตรการการเข้าซื้อสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ทำให้นักลงทุนมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นยุโรปและมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยเชื่อว่ามาตรการของ ECB จะส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นยุโรปในระยะข้างหน้า” นายนาวินกล่าว
นายนาวินกล่าวอีกว่าจากผลการประชุมครั้งล่าสุดของ ECB เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ยังคงมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.05% และยังไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยระบุว่าจะมีการพิจารณาใหม่อีกครั้งในช่วงต้นปี 2558 จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนผิดหวังจากผลการตัดสินใจดังกล่าวของ ECB ส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงจากแรงเทขายของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม แม้ในระยะสั้นตลาดหุ้นยุโรปจะยังคงมีความผันผวนจากแรงซื้อขายอยู่บ้าง แต่ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปในไตรมาสที่ 3 เริ่มออกมามีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ที่เติบโตที่ระดับ 0.20% ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และใกล้เคียงกับที่ตลาดดาดการณ์ไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี