นายกฯนัดประชุม “บอร์ดกพช.” สัปดาห์หน้า มั่นใจทั้งเบนซิน และดีเซลลงได้อีก “ก.พลังงาน” ไขข้อข้องใจของสังคมว่า ทำไมราคาในไทยลดลงไม่มาก ขณะที่น้ำมันดิบร่วงต่ำกว่า60ดอลล่าร์แล้ว
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะนัดประชุม ในวันจันทร์ 15 ธค. 2557 นี้ โดย กระทรวงพลังงานคาดว่าจะสามารถนำข้อเสนอการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งหมด เข้าสู่ที่ประชุม กพช. ครั้งนี้เพื่อพิจารณา เชื่อว่าจะเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้แก่กลุ่มผู้ใช้พลังงานทุกกลุ่มในประเทศ โดยเฉพาะภาคประชาชนซึ่งจะได้ใช้พลังงานในราคาที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งกระทรวงพลังงานมั่นใจว่า จะปรับลดราคาน้ำมันทั้งในส่วนของเบนซิน และดีเซลลงได้อีก ในเร็ว ๆ นี้
“สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีทิศทางปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันของไทย แม้ว่ามีการปรับลดลงหลายครั้ง แต่ก็ยังมีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจากสื่อมวลชน ถึงนโยบายการกำกับดูแลราคาพลังงานของกระทรวงพลังงาน ดังนั้นกระทรวงพลังงานขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ดังนี้”
1. การปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกของไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่า ได้ปรับลดลงสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลกอย่างทันท่วงที โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาจากราคาเฉลี่ยในตลาดโลกที่มีการปรับตัวลดลงซึ่งเมื่อเทียบกับการคำนวนราคาขายปลีกในประเทศแล้วนั้น จะลดลงอยู่ที่ระดับประมาณ 9 – 10 บาทต่อลิตร ซึ่งในปัจจุบันพบว่าภาพรวมราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินนั้น ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ได้ลดลงต่อเนื่อง 13 ครั้ง รวมประมาณ 10 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 17 ครั้ง รวม 9 บาท/ลิตร และแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 16 ครั้ง รวม 8.40 บาทต่อลิตร (ตั้งแต่ 22 พค.เป็นต้นมา) จึงเห็นได้ว่าราคาขายปลีกได้สะท้อนการปรับตัวลดลงของตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง
2. ในส่วนของราคาน้ำมันดีเซล กระทรวงพลังงานขอเรียนว่า เหตุที่ยังไม่สามารถปรับราคาลงได้เท่าทันกับการลดราคาในตลาดโลกเหมือนเช่นกรณีของน้ำมันเบนซินนั้น มาจาก กระทรวงพลังงานมีความจำเป็นต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา เพื่อสะสางหนี้เดิมที่มีอยู่ในกองทุนน้ำมันจากนโยบายการตรึงราคาพลังงานซึ่งเป็นภาระผูกพันมาจากหลายรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงยังต้องส่งเงินเข้ากองทุนบางส่วนเพื่อสะสมเงินในกองทุนรองรับวิกฤตราคาพลังงานที่อาจเกิดการผันผวนขึ้นได้อนาคต
ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อเตรียมรองรับการปรับไปสู่การเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งขณะนี้มีการเก็บเงินภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันดีเซลเพียง 0.75 บาท จากเดิมที่เก็บสูงถึง 5.31 บาทต่อลิตร โดยปัจจุบันสถานะกองทุนมีอัตราการเก็บสถานะเป็นบวกสุทธิอยู่ที่ 10,169 ล้านบาท โดยได้กลับมาอยู่ในสถานะที่เป็นบวกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี
3. ในส่วนของโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่า นโยบายการปรับสมดุลราคา LPG ที่ทำให้ทุกภาคส่วนมีราคาเท่ากัน ถือเป็นความตั้งใจและความกล้าหาญในการเข้ามาแก้ไขปัญหาการบิดเบือนราคาที่เรื้อรังมานาน สำหรับผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบอาชีพหาบเร่แผงลอย กระทรวงพลังงานก็มีมาตรการช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิ์ใช้ราคา LPG ในราคาเดิมทุกประการ
ขณะที่นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ระบุว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ถือว่าต่ำสุดในรอบ 5 ปี ยังมีโอกาสปรับลดลงอีก 2-3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำไปอีก 6 เดือน หรือจนกว่าจะมีการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปค ในกลางปี 2558 ซึ่งหากไม่มีการพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง และรัสเซียกับสหรัฐอเมริกา คงกำลังการผลิตน้ำมัน อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันต่ำกว่า70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลไปจนถึงสิ้นปี 2558 ทั้งนี้จึงเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. เร่งพิจารณาปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ ผ่านการปรับโครงสร้างกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ลดลงประมาณร้อยละ 20 ขณะที่น้ำมันดิบลดลงร้อยละ 40 ว่า เป็นเพราะราคาขายปลีกในไทยมีส่วนของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและภาษี ซึ่งในอดีตราคาขายปลีกไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันดิบที่สูง เพราะใช้กลไกภาษีและกองทุนฯ เข้ามาดูแล ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันดิบลดลงรัฐบาลได้แก้ปัญหาในอดีตในการใช้หนี้กองทุนฯ และเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในอนาคต ดังนั้น ราคาขายปลีกจึงไม่ได้ลดลงในสัดส่วนเท่ากับราคาน้ำมันดิบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี