ตลท.วางแผนปั๊มนักลงทุนสถาบันเพิ่ม ช่วยลดความผันผวนตลาดหุ้น
ตั้งเป้าภายใน5ปีขยับเป็น50%
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. ตั้งเป้าภายใน 5 ปี (2558-2562) จะเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันเป็น 50% จากปัจจุบันที่อยู่ราว 40% เพื่อเป็นการเพิ่มสมดุลให้กับตลาดทุนไทย และเพิ่มเสถียรภาพเพื่อลดความผันผวนของตลาดหุ้นไทย เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนบุคคลจะมีความอ่อนไหวต่อภาวะตลาดในช่วงที่เกิดสถานการณ์ไม่แน่นอนมากกว่ากลุ่มนักลงทุนสถาบัน ที่มีเป้าหมายชัดเจน และไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์มากนัก
อย่างไรก็ตามปัจจุบันพบว่านักลงทุนมีการเข้ามาลงทุนในกองทุนหุ้นเพิ่มมากขึ้นโดยปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 30.70% (ธันวาคม 2556-12 ธันวาคม 2557) หลังจากนี้ตลท.จะร่วมกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (เอไอเอ็มซี) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) นำเสนอข้อมูลและให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนรวมแก่นักลงทุนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางในการออมที่มีผลตอบแทนสูง โดยใน 5 ปีย้อนหลังพบว่าการลงทุนในกองทุนรวมให้ผลตอบแทนเฉลี่ยกว่า 25% ต่อปี
“เราอยากเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันให้มากยิ่งขึ้น เป็น 50% จากตอนนี้ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นนักลงทุนบุคคลซึ่งอยู่ในระดับเฉลี่ย 60-70% โดยการเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันจะช่วยให้เกิดสมดุลในตลาดทุน ช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้นได้ ซึ่งแนวโน้มในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมีนักลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุนในกองทุนหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนี้ไปตลท. จะพยายามให้ข้อมูลแก่นักลงทุนให้มาใช้กองทุนรวมมากยิ่งขึ้น” นางเกศรา กล่าว
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยในขณะนี้มีความผันผวนลดลงหลังจากนักลงทุนเริ่มคลายกังวลกับปัจจัยลบในทางจิตวิทยาไปพอสมควรแล้ว ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องย่อมส่งผลดีต่อประเทศไทยเพราะเป็นผู้นำเข้าน้ำมันในปริมาณมาก ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลง อย่างไรก็ตามดัชนีหุ้นจะยังคงมีความผันผวนในช่วงปลายปีนี้ถึงปีหน้าเพราะมีสถานการณ์คอยกดดันทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับการจัดงานมหกรรมมีใช้ก่อนแก่ด้วย LTF RMF คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวมากกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ราว 400 ล้านบาท แต่จะไม่สามารถผลักดันดัชนีหุ้นให้ปรับขึ้นได้มากนัก เนื่องจากพฤติกรรมของนักลงทุนได้มีการปรับเปลี่ยนและทยอยซื้อไปก่อนหน้านี้แล้วพอสมควร โดยเฉพาะในวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ดัชนีปรับตัวลดลงกว่า 130 จุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี