นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าธนาคารได้เสนอแผนการดำเนินงานปี 2558ให้กระทรวงการคลังพิจารณาโดยตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อที่ 1 แสนล้านบาทหรือเท่ากับ 6% จะทำให้สินเชื่อคงค้างปีนี้อยู่ที่ 1.91 ล้านล้านบาทจากสิ้นปี 2557 สินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านบาทปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าสินเชื่อกว่า 3.2 ล้านรายมีสัดส่วนเป็นกลุ่มลูกค้าส่วนบุคคลมากสุดที่ 67% กลุ่มลูกค้าฐานราก7% กลุ่มลูกค้าธุรกิจ 6% และกลุ่มลูกค้าภาครัฐ 0.2044%
เงินฝากตั้งเป้าไว้ที่ 2.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%หรือกว่า 1 แสนล้านบาทจากสิ้นปี 2557 ที่อยู่ 1.95 ล้านล้านบาทซึ่งคาดว่าจะสามารถเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35% จากสิ้นปี 2557ที่มีจำนวน 4,452 ล้านบาท จากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝาก รวมถึงนำผลิตภัณฑ์เก่ามาทำใหม่เพื่อตอบสนองประชาชนทุกกลุ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้ากำไรสุทธิ 2.1 หมื่นล้านบาทจากสิ้นปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 2.4 หมื่นล้านบาทสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1.9 หมื่นล้านบาทอยู่ 5,000 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารสินทรัพย์รวมในปี 2557 ถึง 2.26 ล้านล้านบาท และคาดว่าปี 2558 จะมีสินทรัพย์รวม 2.37 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5%
ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ณ สิ้นปี 2557 อยู่ที่ 1.37% โดยคาดว่าในปี 2558 เอ็นพีแอลจะอยู่ที่ 1.7% ของสินเชื่อรวม เพิ่มสูงขึ้นจากสิ้นปีที่ผ่านมาเล็กน้อย เนื่องจากธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลที่แนวโน้มมีความเสี่ยง ทั้งภาคประชาชนที่เป็นกลุ่มรากหญ้า และครู ข้าราชการ ซึ่งขณะที่มีอยู่กว่า 5-6แสนล้านบาท แต่ยังมั่นใจว่าจะควบคุมเอ็นพีแอลกลุ่มนี้ได้ ซึ่งยังอยู่ในอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ที่เอ็นพีแอลมีอยู่ทั้งระบบ 2.5% แนวนโยบายการดำเนินงานยังคงเน้นช่วยเหลือรากหญ้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้ครัวเรือนผ่านการปล่อยสินเชื่อขนาดย่อย รูปแบบของนาโนไฟแนนซ์ และไมโครไฟแนนซ์ รวมทั้งยกระดับบริการทางการเงินและคุณภาพการให้บริการสู่มาตรฐานสากล โดยกำหนดแนวทาง7 ด้าน ภายใต้แนวคิดธนาคารออมสินยุคใหม่ GSB New Era ประกอบด้วย 1.การปรับโครงสร้างองค์กรและกระบวนการมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
2.สร้างแบรนด์ให้ชัดเจนและทันสมัย เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น 3.พัฒนาผลิภัณฑ์ และบริการ ให้ตอบสนองความต้องการพฤติกรรม ที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้า ให้แปลกใหม่และทันสมัย เช่น “MYMO” หรือ โมบาย แบงก์กิ้ง และพัฒนาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งบัตรเดบิต บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต
4.พัฒนาบุคลากร ภายใต้งบประมาณ 400 ล้านบาท ด้วยหลักสูตรเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ 5.พัฒนาไอที เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าไปสู่ความเป็นดิจิตอลให้ลูกค้าสะดวกสบายในการรับบริการ 6.มุ่งเน้นค่าธรรมเนียม และการบริการทางการเงินแก่ประชาชน 7.กำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงเพิ่มระดับเงินกองทุนให้ใกล้เคียงกับธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งลดการพึ่งพารายได้ดอกเบี้ย โดยเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ เพื่อให้สามารถรองรับวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผลกระทบเชิงลบต่างๆ และควมคุมเอ็นพีแอลให้อยู่ระดับที่เหมาะสม รวมถึงพัฒนาเครื่องมือบริหารความเสี่ยง เช่น B-score, Credit Bureau Score
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี