เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2558 ที่ผ่านมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ได้ประชุมร่วม ไทย-จีน เพื่อความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทย ครั้งที่ 1 วันที่สอง
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ภาพรวมหารือระหว่างไทย-จีน ตลอดทั้งสองวันที่ผ่านทั้งไทย-จีน มีความเห็นที่ชอบตรงกันในหลายประเด็น และแบ่งการทำงานออกเป็น 4 ช่วงตามเส้นทาง และมีมติร่วมกันในการที่จะยุบรวมการประชุมในครั้งที่ 2 และ 3 เข้าด้วยกันเป็นวันที่ 11-13 ก.พ. 2558 ณ กรุงปักกิ่ง
การประชุมในครั้งนี้ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างกันและมีการตั้งคณะกรรมการบริหารงานร่วมกัน 2 ฝ่าย ทั้งระดับนโยบายและระดับการบริหาร เพื่อความรวดเร็วในการทำงานและกำหนดแผนการทำงาน ซึ่งหลังจากมีการกำหนดแผนการแล้วเสร็จ ทางจีนจะจัดทีมสำรวจพื้นที่ร่วมกับทุกฝ่ายอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค. 2558
ทั้งนี้เชื่อว่าในระดับ คณะกรรมการบริหารจะสามารถมีข้อสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงานต่างๆ ได้ ซึ่งส่วนบางประเด็นอาจจะมีการนำเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบ รวมถึงอาจจะมีเข้าสู่ สภานิติบัญญัติเเห่งชาติ(สนช.) พิจารณาด้วย โดยทั้งหมดจะพยายามให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาที่กำหนดไว้ และขอให้มั่นใจว่าการทำงานระหว่างไทย-จีน จะดำเนินการไปอย่างโปร่งใส และเป็นธรรมมากที่สุด
นอกจากนี้ในวันที่ 1-3 ก.พ. 2558 จะเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อรวมหารือถึงโครงการรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตรที่จะมีการเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์-คุนหมิง ในอนาคตให้มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ไปยังภาคใต้ ยืนยันว่าจะดำเนินการต่อไป นอกจากนี้รางที่มีอยู่ขนาด 1 เมตร ก็จะใช้งานอยู่ แต่จะปรับเปลี่ยนจากการใช้หัวรถจักรดีเซล ไปใช้ระบบไฟฟ้าแทนเพื่อให้สามารถเชื่อมกับมาเลเซียได้โดยตรง
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม กล่าวว่าทางจีนได้มีการเสนอรูปแบบการลงทุนในเบื้องต้น 3 รูปแบบ 1.จีนเสนอให้ไทยกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.รัฐและเอกชนร่วมลงทุนด้วยหรือ PPP และ 3.รัฐบาลลงทุนร่วมกัน ระหว่างไทย-จีน โดยการตั้งบริษัทร่วมทุน ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบจะต้องมีการพิจารณาร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้และอัตราผลตอบแทนของการลงทุน
ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมสุดยอด ผู้นำกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 ไทย จีน พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยไทย ได้เซ็นเอ็มโอยูกับจีน เพื่อสร้างรถไฟรางคู่มาตรฐาน 1,435 เมตรด้วย โดยมีเส้นทางจาก หนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 734 กม. และช่วงแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 133 กม. รวม 867 กม. โดยรถไฟรางคู่สายนี้มีความเร็วสูงสุด 180 กม.ต่อชั่วโมง เพื่อเชื่อมกับเส้นทางสายไหมของจีนที่หนองคาย ค่าก่อสร้างที่ประเมินไว้เบื้องต้นคือ 392,570 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี