นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า ปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศไทยในปี 2557 ทั้งปีอยู่ที่ 40 ล้านตัน ติดลบ 1% จากปี 2556 แต่ภาพรวมเริ่มกลับมาบวกในช่วงเดือนธันวาคม 2557 โดยคาดว่าในปี 2558 ปริมาณความต้องการจะเติบโต 6% อยู่ที่ 42 ล้านตัน เนื่องจากการดำเนินงานตามแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรอบกรุงเทพและในเขตปริมณฑล จึงตั้งเป้าหมายยอดขายปูนปีนี้อยู่ที่ 4.9 แสนล้านบาท และจะเป็นปริมาณความต้องการสูงสุดสถิติใหม่ของประเทศไทย จากที่ปี 2557 ที่มีปริมาณการใช้รวมประมาณอยู่ที่ 40 ล้านตัน ส่วนราคาขายปูนซีเมนต์ในปีนี้ราคาปรับลดลง 40 บาทต่อตัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
“ปี’58 จะเป็นปีทองเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีอัตราการเติบโตที่ดี ขณะที่เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะขยายตัว 4% โดยเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มดีขึ้น รวมทั้งยุโรปเศรษฐกิจจะยังคงทรงตัว ขณะที่ประเทศรัสเซียธุรกิจเกี่ยวข้องกับน้ำมันถึง 70-80% ได้รับผลกระทบโดยตรง ส่วนจีนเศรษฐกิจจีนจะยังคงขยายตัว ระดับ 7% ขณะที่เศรษฐกิจอินเดียเริ่มดีขึ้น ส่วนไทยปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ต่ำสุดในอาเซียน แต่ปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 4% โดยราคาน้ำมันที่ลดลงอาจกระทบเชิงลบต่อธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันและธุรกิจพลังงาน ขณะที่ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันน่าจะมีต้นทุนลดลง รวมทั้งการท่องเที่ยวจะดีขึ้น และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) จะส่งผลดีต่อการค้าระหว่างชายแดนอีกด้วย”
“เอสซีจี มีความเชื่อมั่นอย่างสูงในศักยภาพของอาเซียนซึ่งสอดรับกับโครงการลงทุนของเอสซีจีที่มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องตามแผน สามารถผลิตสินค้าเพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศอินโดนีเซียและกัมพูชาจะเริ่มผลิตสินค้าออกสู่ตลาดได้ภายในปีนี้ ขณะที่โรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศเมียนมาร์และสปป.ลาว คาดว่าจะเริ่มผลิตในปี 2559 และ 2560 ตามลำดับ รวมถึงโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในประเทศเวียดนามมีความคืบหน้าตามแผนเช่นกัน ซึ่งโครงการลงทุนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการขยายตัวของตลาดและรองรับความต้องการของลูกค้าในอาเซียน” นายกานต์กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทยังคงใช้แผนระยะยาว 5 ปี (พ.ศ.2556-2560) โดยใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 2.5 แสนล้านบาท โดยในปี 2556 ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 5 หมื่นล้านบาท ปี 2557 ใช้เงินลงทุน 4.52 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2558 จะใช้งบลงทุนทั้งสิ้นกว่า 5 หมื่นล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในปี 2557 ก่อนสอบทาน เอสซีจี มีรายได้จากการขาย 487,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน มีกำไร 33,615 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีก่อนที่มีกำไรรวม 36,522 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2557 มีรายได้จากการขายรวม 116,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสำหรับงวด 8,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่มีขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือในไตรมาสที่ 4 ที่เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลงถึง 2,960 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี