1 ก.พ. 58 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ศูนย์วิจัยนโยบายพลังงานและทรัพยากร มหาวิทยาลัยรังสิต (ศวพท.) จัดสัมมนาวิชาการด้านพลังงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะ ภายในงานมีการเสวนาในหัวข้อ เรื่อง "สืบสานพระราชปณิธาน การจัดการทรัพยากรเพื่อประเทศไทย" โดยนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวปาฐกถา เน้นย้ำให้กระทรวงการคลัง พิจารณาเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 อย่างรอบคอบ โดยจะต้องไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ และไม่ผูกขาดให้บริษัทใดบริษัทหนึ่ง รวมทั้งต้องเปิดช่องให้มีตัวแทนประชาชนเข้าไปร่วมกำกับดูแล เพราะหากเดินหน้าแล้วทำให้การคลังของประเทศเสียหาย ประชาชนก็อาจยื่นร้อง ให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบได้
ทางด้าน ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนโยบายพลังงานและทรัพยากร ระบุว่า สิ่งที่รัฐต้องตระหนักคือ รักษากรรมสิทธิ์ของแผ่นดิน โดยเฉพาะพลังงานที่ขุดได้ต้องเป็นของรัฐ เพราะไทยค้นพบแหล่งน้ำมันดิบเป็นครั้งแรก ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จึงอยากให้รัฐบาลน้อมนำพระบรมราโชบายการจัดการทรัพยากรของกษัตริย์ในอดีตมาใช้ในปัจจุบัน เพื่อความมั่นคงทางพลังงานที่แท้จริง
นอกจากนี้ นายธีระชัย ยังให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่า จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนสูงและฟื้นตัวช้า ขณะที่เงินทุนไหลเข้ามีความผันผวนและไหลเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งจะต้องระมัดระวังการบริหารจัดการกระแสเงินสด ขณะเดียวกันภาครัฐจะต้องเร่งเดินหน้าการลงทุนให้มีความต่อเนื่อง เพื่อให้ภาคเอกชนกล้าตัดสินใจเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยการลงทุนจะต้องอยู่บนพื้นฐานการเมืองที่นิ่ง อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ในปีนี้จะเติบโตตามที่หลายฝ่ายคาดที่ร้อยละ 4-4.5
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี