อีก3ปีต้องการเพิ่มกว่า3ล้านคน-ไทยเริ่มสังคมชราต้องพึ่งต่างด้าว
วิกฤติแรงงานส่อเค้าหนัก
สศอ. ชี้อีก 3 ปีไทยต้องการแรงงานเพิ่มกว่า 3 ล้านคน หลัง จีดีพีเติบโตสูง ตั้งแต่ปี’59 เป็นต้นไป อุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่มต้องการมากสุดกว่า 1.3 ล้านคน ขณะที่สังคมไทยมีประชากรเกิดน้อยลง จำเป็นต้องใช้ต่างด้าว ก.อุตฯวางแผนร่วมมือ ก.ศึกษาฯ ก.แรงงาน ผลิตแรงงานให้สอดคล้องสภาพเศรษฐกิจ พร้อมพัฒนาผู้ประกอบการยกระดับเทคโนโลยี
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า แนวโน้มความต้องการแรงงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2558-2560 ใน 5 อุตสาหกรรมหลักที่มีการจ้างงานสูงจะมีความต้องการแรงงานรวมสูงกว่า 3,268,000 คน ภายใต้ปัจจัยจากยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และปัจจัยพื้นฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 4% ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจในปี 2559 และ 2560 หากไม่มีปัจจัยเสี่ยงจะทำให้เกิดการขยายตัวมากกว่าในปีนี้
โดยอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม พบว่ามีความต้องการสูงเป็นอันดับหนึ่งประมาณ 1,310,000 คน ตั้งแต่กระบวนการผลิตทางการเกษตร รองลงมาคือ อุตฯสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 885,000 คน ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 470,000 คน ยานยนต์และชิ้นส่วน 430,000 คน และอุตฯ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ 173,000 คน โดยในหลายภาคการผลิตจะอาศัยแรงงานต่างด้าวเข้ามาทดแทนความต้องการแรงงาน ขณะที่อัตราการว่างงานภายในประเทศ อยู่ในระดับต่ำที่ 0.6-0.8% ซึ่งที่ผ่านมาอัตราการว่างงานของไทยไม่เคยมีสัดส่วนการว่างงานเกิน 1%
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวมาจากการประเมินบนสมมุติฐานที่ จีดีพี ประเทศไทยจะขยายตัวในระดับ 4% ทุกปี สะท้อนให้เห็นว่าในอนาคตภาคอุตสาหกรรมของไทยยังคงมีความต้องการแรงงานอย่างมาก ซึ่งในหลายภาคการผลิตได้อาศัยแรงงานต่างด้าวเข้ามาทดแทนความต้องการแรงงาน ประกอบกับแนวโน้มของโครงสร้างประชากรไทยที่มีอัตราการเกิดต่ำ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีมาตรการในการรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในทุกระยะ
“ภาคอุตสาหกรรมไทยใน 5 อุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สิ่งทอและเครื่องนุ่มห่ม ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลจะมีความต้องการแรงงานรวมกันมากถึง 3.268 ล้านคน ขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ”
อย่างไรก็ดี สศอ. จะนำข้อมูลที่ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เพื่อวางมาตรการรับมือจัดหาแรงงานให้เพียงพอกับความต้องการ โดยมาตรการระยะสั้นในการรับมือปัญหาความต้องการแรงงานที่สูงในภาคอุตสาหกรรมช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยภาครัฐจะต้องมีการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพทักษะฝีมือแก่แรงงานใหม่ก่อนเข้าทำงาน หรือกำลังจะเข้าสู่การทำงานให้มีความรู้ ความสามารถในการทำงาน หรือมีสมรรถนะเพิ่มขึ้นในแต่ละสาขาอาชีพ และสอดคล้องกับความต้องการกับภาคอุตสาหกรรม
นอกจากนั้นจะช่วยลดปัญหาความไม่สอดคล้องของแรงงานกับความต้องการของตลาด (Skill Mismatch) เนื่องจากตลาดขาดแคลนแรงงานมีฝีมือและประสบการณ์ โดยเฉพาะแรงงานช่างระดับอาชีวะ ในขณะที่แรงงานจบใหม่ส่วนใหญ่นิยมการศึกษาระดับปริญญาตรี รวมทั้งสนับสนุนโรงงาน/สถานประกอบการมีส่วนร่วมในนโยบายส่งเสริม Talent Mobility ที่ได้รับการผลักดันจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เนื่องจากนโยบายดังกล่าวส่งเสริมให้บุคลากร นักวิจัยของหน่วยงานภาครัฐไปปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในภาคเอกชน
ส่วนมาตรการระยะกลางและระยะยาว ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพหรือความสามารถของแรงงาน ทั้งทางตรง คือ การอบรมเพิ่มทักษะและการศึกษา และทางอ้อมโดยการใช้เครื่องจักรหรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยผู้ประกอบการไทยจะต้องยกระดับการผลิต เปลี่ยนจากการพึ่งพาแรงงานไร้ฝีมือราคาถูก มาเป็นแรงงานที่มีความชำนาญด้านเครื่องจักร เพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้นและสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้มีการลงทุนใน 3 ด้าน คือ การลงทุนในเครื่องจักร การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการลงทุนพัฒนาแรงงานด้านทักษะและการศึกษา เพื่อสร้างแรงงานที่มีผลิตภาพสูงและสร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และควรมีการจัดทำยุทธศาสตร์การผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่ชัดเจน เพื่อลดปัญหาความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานด้านกำลังคนในภาคอุตสาหกรรมทั้งในระดับภาพรวมและรายสาขาอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2558 สศอ.จะเร่งปรับปรุงพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เชื่อมโยงด้านอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ การศึกษา และแรงงาน หรือระบบ LEED-X โดยมีฐานข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้มีความทันสมัยและเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถคาดการณ์ความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมอย่างละเอียด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี