กรมเชื้อเพลิงฯขู่ก๊าซธรรมชาติเหลือใช้แค่6ปี
จี้สนช.สรุปสัมปทานรอบ21
อธิบดีกรมเชื้อเพลิงฯ ย้ำข้อมูล หากไม่เปิดสัมปทานรอบ 21 กระทบแน่ รอสนช. ชี้ขาดว่าจะแก้กฎหมายปิโตรเลียมอย่างไร ขณะที่สำรองปิโตรเลียมเหลือน้อยลงเหลือ 6 ปี ถือว่าเสี่ยง ต้องเร่งเปิด
นางพวงทิพย์ ศิลปศาสตร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงพลังงาน ได้ออกประกาศเรื่องการยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจบนบกและในทะเลอ่าวไทย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2557 และออกประกาศเพิ่มเติม ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 และประกาศขยายกำหนดเวลาการยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจบนบก และในทะเลอ่าวไทย จนถึงวันที่ 16 มีนาคม นั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และสอดคล้องกับการปฏิรูปด้านพลังงาน
กระทรวงพลังงาน จึงอาศัยอำนาจตามประกาศกระทรวงพลังงานดังกล่าวข้างต้นเกี่ยวกับข้อสงวนสิทธิตามข้อ 4.2 ซึ่งระบุว่า ทางราชการสงวนสิทธิที่จะยกเลิกประกาศฉบับนี้ หรือให้หรือไม่ให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมตามประกาศฉบับนี้แก่ผู้ขอรายหนึ่งรายใดก็ได้ และผู้ขอจะไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายหรืออื่นใดนอกเหนือจากเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนดตามประกาศฉบับนี้เท่านั้น ทั้งนี้ รมว.พลังงานได้ลงนามในประกาศยกเลิก เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2558
นางพวงทิพย์กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน เห็นว่าต่อจากนี้ควรให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับปิโตรเลียม เช่น แก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียมพ.ศ. 2514 หรือออกกฎหมายเพื่อรองรับระบบแบ่งปันผลประโยชน์ หรือ พีเอสซี ตามนโยบายรัฐบาลเพียงอย่างเดียว จึงไม่มีความจำเป็นต้องตั้ง คณะกรรมการร่วมฯภาครัฐ-ประชาชนเพื่อหารือเรื่องนี้ เพราะกระทรวงพลังงานได้ให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าวมาหลายปีและหาก สนช.จะเรียกฝ่ายใดไปให้ข้อมูลก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ
“เมื่อแก้กฎหมายเสร็จแล้ว กระทรวงพลังงาน จะเปิดให้เอกชนยื่นขอสิทธิเพื่อสำรวจอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นช่วงใดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล แต่ยืนยันว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเปิดการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เพราะปัจจุบันไทยเป็นผู้นำเข้าพลังงานทุกประเภท” นางพวงทิพย์กล่าว
โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า มีความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ขณะที่ก๊าซธรรมชาติลดลง โดยหลังเดือนเม.ย.นี้ทางกรมจะสรุปปริมาณสำรองปี 2557 ที่เหลือว่ามีจำนวนเท่าไหร่ โดยเบื้องต้น คาดว่าเหลือใช้อีกประมาณ 6 จากปีที่แล้วเหลือใช้ 7 ปี ซึ่งต้องยอมรับว่าก๊าซมีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันและต่อระบบเศรษฐกิจไทยมหาศาล
อย่างไรก็ดี กรมยังเห็นว่าไทยควรจะเปิดโอกาสให้กับประเทศในการสำรวจฯปิโตรเลียมเนื่องจากปัจจุบันไทยมีการผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 5,000 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ขณะที่การผลิตอยู่ที่ระดับ 3,000 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ที่เหลือเป็นการนำเข้าทั้งจากแหล่งพัฒนาร่วมไทยมาเลเซีย(JDA) จากพม่า นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) โดยการสำรวจเพื่อผลิตในประเทศก็หวังจะรักษาระดับการผลิตให้อยู่ในระดับ 3,000 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ไม่ให้ลดลงมากเพื่อไม่ให้ไทยต้องนำเข้าในจำนวนมากเพราะราคาจะแพง ประกอบกับสิ่งสำคัญคือ LNG ที่นำเข้าจะไม่สามารถนำมาผลิตปิโตรเคมีที่เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การยกเลิกประกาศสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ยอมรับว่ากระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งเอกชน 1 รายที่ได้เสนอขอสัมปทานรอบ 21 ทางกรมจะทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ โดยเอกชนมีความเข้าใจถึงสถานการณ์ประเทศไทย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 27 ก.พ. 2558 ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.กรกสิวัฒน์
เกษมศรี และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและภาคประชาชน 3 คณะ ทำงานคู่ขนานกันไปกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคประชาชน ที่รัฐบาลแต่งตั้งก่อนหน้านี้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ครอบคลุมทุกประเด็น ทั้งความเป็นธรรมต่อการจัดสรรทรัพยากร การแก้ไขกฎหมาย การจัดการแปลงปิโตรเลียมที่จะสิ้นสุดสัมปทานและแปลงปิโตรเลียมใหม่ข้างเคียงแปลงที่ดำเนินการผลิตแล้วในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ขอเสนอชื่อ นายปานเทพ และ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เข้าไปเป็นคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคประชาชน ตามที่ภาคประชาชนเสนอชื่อไปตอนแรก แต่กลับไม่มีรายชื่อดังกล่าว โดยไม่อยากให้ภาครัฐแทรกแซงการกำหนดตัวแทนของภาคประชาชน เพราะเป็นการทำลายบรรยากาศความจริงใจในการเจรจาหาทางออก เพื่อการปฏิรูปพลังงานได้ ซึ่งเครือข่ายฯ จะมอบหมายนายปานเทพ เป็นผู้ประสานกับภาครัฐในการดำเนินการตามมติดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี