‘ซูเปอร์บอร์ด’เล็งตั้ง‘องค์กรพิเศษ’คุมขุมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ
ห้าม‘นักการเมือง’แทรก
คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ หรือ “ซูเปอร์บอร์ด” นัดประชุม 2 มี.ค. นี้ เล็ง “องค์กรพิเศษ” ใหม่ขึ้นมากำกับดูแลและบริหารงาน สกัดนักการเมืองเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ โดยศึกษาโครงสร้าง อาจยึด “แบงก์ชาติ” เป็นต้นแบบ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบาย และกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.)หรือซูเปอร์บอร์ดวันที่ 2 มี.ค.2558 จะมีการหารือถึงการตั้งองค์กรพิเศษใหม่ขึ้นมากำกับดูแลและบริหารงานของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ซึ่งจะมีการพิจารณาว่ารูปแบบใดมีความเหมาะสม และเป็นเรื่องที่ยังต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า องค์กรพิเศษที่จะตั้งขึ้นมามีหลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่น่าเป็นไปได้ที่สุดที่จะมีการหารือกับในซูเปอร์บอร์ด คือ การตั้งเป็นองค์กรอิสระในรูปแบบบรรษัทรัฐวิสาหกิจแห่งชาติ หรือ ซูเปอร์โฮลดิ้ง โดยจะเป็นผู้ถือหุ้นรัฐวิสาหกิจทั้งหมดแทน กระทรวงการคลัง พร้อมกันนี้ก็จะรวบอำนาจการบริหารงานของรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่กระจายอยู่ตามกระทรวงต่างๆ มาไว้กับซูเปอร์โฮลดิ้งทั้งหมด เพื่อให้การบริหางานมีเอกภาพและไม่ให้การเมืองเข้าแทรกแซง หรือแสวงหาผลประโยชน์
“ซูเปอร์โฮลดิ้งจะมีอำนาจในฐานะผู้ถือหุ้น แต่งตั้งกรรมการและผู้บริหารที่เหมาสมเข้าไป รวมถึงเป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงานของรัฐวิสากิจด้วย โดยจะมีการออกแบบให้การเมืองแทรกแซงซูเปอร์โฮลดิ้งไม่ได้ง่ายๆ เช่น การปลดกรรมการผู้จัดการซูเปอร์โฮลดิ้งจะต้องมีความผิดร้ายแรงถึงจะทำได้ เหมือนกับปลดผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ไม่ใช่คิดจะปลดก็ปลดโดยให้เหตุผลเพื่อความเหมาะสมเท่านั้น”
แหล่งข่าวกล่าวว่า การตั้งซูเปอร์โฮลดิ้งมาบริหารรัฐวิสาหกิจจะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจสำคัญๆ ทั้งสาขาขนส่ง พลังงาน การสื่อสาร รวมถึงสถาบันการเงิน ที่อำนาจกระจายอยู่ในกระทรวงต้นสังกัด ทั้งที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น แต่กลับไม่มีอำนาจบริหาร หรือ ส่งคนเข้าไปเป็นกรรมการ ปัญหาดังกล่าวก็จะหมดไป
อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์บอร์ดจะมีการหารือถึงการตั้งหน่วยงานอิสระรูปแบบอื่นด้วย เช่น การตั้งเป็นหน่วยงานขึ้นมาใหม่อยู่ภายใต้การดูแลของ สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการเมืองจะแทรกแซงได้ง่าย
นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบหน่วยงานอิสระเหมือนกับ ธปท. หรือ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) แต่ก็มีข้อเสียว่าจะทำหน้าที่กำกับได้อย่างเดียว แต่ไม่มีอำนาจเข้าไปบริหาร ซึ่งเป็นจุดอ่อนสำคัญของรัฐวิสาหกิจที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง หนึ่งในกรรมการซูเปอร์บอร์ด แสดงความเห็นว่า ต้องรับฟังความคิดของกรรมการซูเปอร์บอร์ด ว่าส่วนใหญ่เห็นว่ารูปแบบไหนเหมาะสม ในส่วนของกระทรวงการคลัง ก็ต้องเตรียมข้อมูลให้ซูเปอร์บอร์ดพิจารณาว่า หากมีการตั้งซูเปอร์โฮลดิ้งขึ้นมาดูแลรัฐวิสาหกิจแบบเบ็ดเสร็จ ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จะมีบทบาทหน้าที่อย่างไรต่อไป
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง ได้รายงานฐานะของรัฐวิสาหกิจ 9 สาขา จำนวน 55 แห่ง ณ เดือน มิ.ย. 2557 พบว่า มีทรัพย์สินรวมกัน 11.8 ล้านล้านบาท มีหนี้สิน 9.33 ล้านล้านบาท มีรายได้จากการดำเนินงาน 1.36 ล้านล้านบาท มีรายจ่ายการดำเนินงาน 1.21 ล้านล้านบาท มีกำไรสุทธิ 7.1 หมื่นล้านบาท มีเงินนำส่งรัฐในปีงบประมาณ 2557 ที่ผ่านมา 1.36 แสนล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี