นายกรัฐมนตรี สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปวิจัยคิดทำต้นแบบในการผลิตรถไฟฟ้า เชื่อในอนาคตไทยผลิตรถเมล์ไฟฟ้าใช้เอง ด้าน“คมนาคม” รับลูกเตรียมนำเข้ารถไฟฟ้า 500 คัน มาใช้ในไทย ระบุเพื่อวิจัย และเปรียบเทียบต้นทุนกับรถเมล์ “เอ็นจีวี” ว่า แบบไหนเหมาะกว่า เตรียมเสนอ “ประจิน” เห็นชอบสัปดาห์หน้า
ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำ คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 6 เดือน
โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งว่าอยากให้อนาคตประเทศไทยดีขึ้น ควรนำงานวิจัยมาพัฒนา ทั้งนี้ตนสั่งให้ไปวิจัยคิดทำต้นแบบในการผลิตรถไฟฟ้า โดยไทยทำเองให้ได้ ซึ่งคิดว่าไม่ยาก และในวันหน้าเราอาจต้องใช้รถเมล์ไฟฟ้าเป็นของเรา
ส่วนที่ กระทรวงคมนาคม วันเดียวกัน นายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานการประชุม คณะทำงานศึกษาความเหมาะสมระบบเชื้อเพลิงสำหรับรถโดยสารของ ขสมก. ว่า ที่ประชุมมีการเสนอการนำเข้ารถโดยสารระบบไฟฟ้าจำนวน 500 คัน เพื่อนำมาใช้และเปรียบเทียบกับระบบรถเมล์ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือ NGV ทั้งในส่วนของศักยภาพ และค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ทางคณะทำงานได้มีการรายงานผลการศึกษาค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบแต่ละระบบเชื้อเพลิง โดยรถเมล์ไฟฟ้าราคานำเข้ารวมภาษีคันละ 15 ล้านบาท ระยะยาว 20 ปี ค่าใช้จ่ายรวมค่าบำรุงรักษา และค่าเชื้อเพลิงประมาณ 30 ล้านบาท ขณะที่รถเมล์ดีเซลจะอยู่ที่ประมาณ 43 ล้านบาท และรถเมล์ NGV ประมาณ 34 ล้านบาท โดยยังไม่รวมถึงการคำนวณราคา NGV ที่จะปรับขึ้นในอนาคต และการจัดทำจุดเติมพลังงานไฟฟ้าจะถูกกว่าจุดบริการก๊าซ NGV เนื่องจากการทำสถานีเติมก๊าซจะต้องมีการวางแนวท่อส่ง
ในส่วนเรื่องสถานีชาร์จไฟ โดยราคาตัวชาร์จประมาณ 300,000 บาทต่อตัว ใช้เวลาชาร์จ 5 ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทาง 250 กิโลเมตร ซึ่งระบบพลังงานไฟฟ้าในอนาคตมีแนวโน้มที่จะมีราคาลดลงอีก เนื่องจากเป็นระบบที่กำลังพัฒนาและทั่วโลก อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตลาดรถไฟฟ้านั้น เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสตรี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน “เปิดตัวรถโดยสาร และรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย แล้วโดยนำเข้ามาประเดิมตลาดก่อน 2 รุ่น ได้แก่ รถโดยสารไฟฟ้า
รุ่น K9 และรถยนต์นั่งไฟฟ้า รุ่น E6
สำหรับ รถโดยสารไฟฟ้า รุ่น K9 มาพร้อมกับขนาดความยาวถึง 12 เมตร เป็นรถโดยสารไฟฟ้าชานต่ำที่มีตัวถังรถทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยมีน้ำหนักเบา และไม่เป็นสนิม พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 180 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 250 แรงม้า ช่วงล่างมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium Fe มีความจุขนาด 324 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้เวลาในการประจุไฟฟ้าประมาณ 5 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 250 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง ทำให้มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยราว 1.2 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อกิโลเมตร หรือประมาณ 4 บาทต่อกิโลเมตร และให้ความเร็วสูงสุดที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยปัจจุบันบริษัทได้ทดลองให้บริการรถโดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ข้าราชการ พนักงาน และประชาชนทั่วไป ในการเดินทางภายในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ทั้งนี้เพื่อศึกษาและทำวิจัยต่อยอดการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี