ICTคาดต้นปี’59ตั้งหน่วยงานบรอดแบนด์แห่งชาติ
มุ่งวางโครงข่ายเนตเข้าถึงทุกหมู่บ้าน
นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยว่า ผลการประชุมล่าสุดของคณะกรรมการบรอดแบนด์แห่งชาติ (National Broadband) ทุกหน่วยงานราชการที่มีโครงข่ายบรอดแบนด์ในครอบครองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ออพติก อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และเสาโทรคมนาคม เป็นต้น ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บมจ.กสท โทรคมนาคม และบมจ.ทีโอที รวมทั้งโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกของภาคเอกชน ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น
โดยมีความยินดีนำทรัพย์สินมารวมกัน เพื่อให้บริษัทกลางที่รัฐบาลจะจัดตั้งขึ้น มาบริหารจัดการทำบรอดแบนด์แห่งชาติ เพื่อให้เป้าหมายในการวางโครงข่ายอินเตอร์เนตผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกไปยังทุกหมู่บ้านทั่วประเทศภายในปี 2559 และให้เข้าถึงทุกหมู่บ้านภายในปี 2560
ทั้งนี้ต้องมีการจ้างที่ปรึกษา เพื่อมาวิเคราะห์มูลค่าทรัพย์สินและรูปแบบการจัดตั้งบริษัทก่อน โดยจะให้แต่ละหน่วยงานนำเสนอรายชื่อบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญมาให้คัดเลือก ซึ่งขณะนี้มี 3 บริษัท จากฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานและประสบการณ์ในการวางโครงข่ายบรอดแบนด์อินเตอร์เนตขนาดใหญ่ ทั้งในยุโรป และตะวันออกกลาง ทั้งนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณในการว่าจ้าง 20-30 ล้านบาท และใช้เวลาในการคัดเลือกภายใน 1 เดือน โดยต้องมีการวางแผนให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งหน่วยงานที่นำทรัพย์สินมารวมไว้ที่บริษัทกลาง จะได้ค่าตอบแทนเป็นการจัดสรรหุ้นในบริษัท และบริษัทที่ตั้งขึ้นต้องไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ แต่ต้องดำเนินกิจการแบบเอกชน โดยคาดว่าต้นปี 2559 จะจัดตั้งหน่วยงานบรอดแบนด์แห่งชาติได้
สำหรับผลงานกระทรวงไอซีทีช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (12 กันยายน 2557-31 มกราคม 2558) ที่โดดเด่นแบ่งเป็น 3 เรื่อง ซึ่งเรื่องแรก ได้แก่ การผลักดันกฎหมาย 3 กลุ่มให้เดินหน้า กลุ่มที่ 1 คือกลุ่มกฎหมายส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มกฎหมายที่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มกฎหมายด้านความมั่นคง ส่วนเรื่องที่ 2 คือ การทำให้ทั้งทีโอที และ กสท โทรคมนาคม จับมือคุยกัน รวมถึงเจรจาการแก้ไขปัญหาสัมปทาน กรณีข้อพิพาทสัมปทานกับเอกชนได้ และเรื่องที่ 3 คือ กรณีสัมปทานดาวเทียม ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการดำเนินงาน หลังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีการดำเนินงานให้เป็นไปตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558
อย่างไรก็ตาม กระทรวงไอซีทีได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหน่วยงานตามกฎหมายใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้ประมาณเดือนสิงหาคม 2558 ได้แก่ การจัดตั้งกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยการปรับปรุงภารกิจและโครงสร้างจากกระทรวงไอซีที ซึ่งจะมีส่วนราชการใหม่ 1 ส่วน คือ สำนักงานคณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐอีก 1 แห่ง คือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล เพื่อขับเคลื่อนและดำเนินการตามนโยบายของคณะกรรมการดิจิตอลเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2558 ตลอดจนการนำเสนอนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในเดือนกันยายน 2558
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี