รมว.พลังงาน พอใจผลงาน แม้เรื่องการเปิดสัมปทานรอบ 21 กับการปรับขึ้นก๊าซ NGV สะดุด ปลื้มน้ำมันโลกลดลง ดันเงินกองทุนฯพลิกมาเป็นบวกเกือบ 4 หมื่นล้าน จากที่เคยติดลบกว่า 6 พันล้าน ขณะที่ค่าไฟฟ้าลดลง เผยมีคนแนะให้ทำตัวแบบ “นักการเมือง” บ้าง
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2558 นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน ได้แถลงผลงานใน 6 เดือน (12 ก.ย. 2557-31 มี.ค. 2558) ว่า ที่ผ่านมาทาง กระทรวงพลังงาน ได้เร่งจัดการแก้ไขปัญหาภาพรวมของปัญหาวิกฤติภาคพลังงานตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ราคาเชื้อเพลิงแต่ละชนิด
โดยผลการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานในรอบ 6 เดือน ที่ผ่านมา ถือเป็นที่น่าพอใจ แต่ยอมรับว่า “สอบตก” อยู่สองเรื่อง คือ การเปิดสัมปทานรอบที่ 21 จากเดิมจะมีการพิจารณาเสร็จสิ้นในเดือนก.พ. 2558 แต่ต้องประกาศยกเลิกไป โดยจากนี้ไปจะเป็นกระบวนการเพื่อแก้ไขกฎหมายปิโตรเลียม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3 เดือน ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายปิโตรเลียมจะเป็นหน้าที่ของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งเป็นการแก้กติกาในการบริหารระบบทรัพยากรธรรมชาติของประเทศด้วยวิธีที่เหมาะสม โดยการยกเลิกประกาศสัมปทานฯถือเป็นเรื่องปกติ หากแก้กฎหมายใหม่ ก็สามารถกลับมาประกาศเปิดสำรวจได้ ทั้งนี้คาดว่าสิ้นเดือนมิถุนายนนี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด
ส่วนอีกเรื่องที่รมว.พลังงานคิดว่าสอบตกคือ เรื่องการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ (NGV) ยังต้องชะลอออกไปก่อน แม้จะสามารถขยับราคาได้มาจนถึง 13 บาทต่อกก. ซึ่งจากแผนเดิมต้องการให้ราคาสะท้อนต้นทุนซึ่งอยู่ที่ 15 บาทต่อกก.
“จากนี้คงต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสมก่อน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้ในภาคประชาชนและภาคขนส่งจนเกินไป แต่การปรับราคาต้องดูราคาต้นทุนขณะนั้นด้วยว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่อีกครั้ง ซึ่งเรื่องการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯนั้นยอมรับว่าในส่วนของแอลพีจีก็ได้ทำสำเร็จในการนำไปสู่การลอยตัวได้ เพราะโชคดีที่ราคาตลาดโลกลดต่ำ”
ส่วนเรื่องการปรับราคาเอ็นจีวีนั้น ที่ผ่านมาทางกระทรวงพลังงานได้เตรียมข้อมูลไว้แล้ว แต่ได้มีการขอร้องจากหลายฝ่ายในคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้มีการชะลอออกไปก่อน โดยมีการเสนอแนะให้ตนทำตัวแบบนักการเมืองบ้าง ไม่ใช่มองแต่มุมเศรษฐศาสตร์ ซึ่งการชะลอดังกล่าวคิดว่าประชาชนคงจะชอบมากกว่า อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าได้ข้อสรุปใน 6 เดือน หลังจากนี้แน่นอน
รมว.พลังงานกล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ดำเนินการแล้ว คือ การเร่งแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อบริหารจัดการใหม่โดยเฉพาะการลดการบิดเบือนการใช้พลังงาน ดำเนินการปรับรูปแบบการคำนวณต้นทุนก๊าซหุงต้ม(LPG) ปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตและปรับอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุด รวมทั้งปลดล็อกอนุมัติโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่ค้างการพิจารณาไว้ในหลายรัฐบาลก่อน โดยปัจจุบันได้ดำเนินการอนุมัติโครงการพลังงานหมุนเวียนไปแล้วทั้งสิ้น 160 โครงการ ปริมาณรวมสูงถึง 918.33 เมกะวัตต์
ด้านความมั่งคั่ง(Economy) กระทรวงพลังงาน ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากมาตรการเร่งด่วน ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในช่วงแรกของการเข้าดำเนินงาน จนปัจจุบันได้ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีรายได้กลับมาเป็นบวกเกือบ 4 หมื่นล้านบาท จากที่เคยติดลบกว่า 6,000 ล้านบาท มีเงินเข้าคลังจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตที่เพิ่มขึ้นประมาณ 8 หมื่นล้านบาทต่อปี รวมทั้งลดการนำเข้าก๊าซหุงต้ม(LPG) ช่วยประเทศประหยัดได้เดือนละ 1,000 ล้านบาท และที่สำคัญหลังจากกระทรวงพลังงานได้บริหารนโยบายด้านพลังงานอย่างจริงจังประกอบกับราคาพลังงานโลกมีการอ่อนตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการปรับลดค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือค่า FT ครั้งใหญ่สุดในรอบ 14 ปี ซึ่งช่วยให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี