กรมขนส่งฯไม่ง้อแท็กซี่ขู่หยุดวิ่ง ออกโรงสอนต้องภูมิใจในอาชีพ
วันเสาร์ ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558, 14.22 น.
Tag :
25 เม.ย. 58 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส โคราช นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมขนส่งทางบก กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประมูลหมายเลขทะเบียนสวยของ จ.นครราชสีมาถึงกรณีปัญหาแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิไม่กดมิเตอร์ชาวญี่ปุ่นและการขู่จะหยุดให้บริการ 1,700 คันว่า มีปัจจัยหลายเรื่อง ซึ่งเรามีแท็กซี่ 2 ขนาด มีขนาดเล็กกับขนาดใหญ่ การให้บริการต้องเป็นไปตามที่กำหมายกำหนด 1.ปฏิเสธผู้โดยสารไม่ได้ 2.ต้องใช้มิเตอร์ แต่ปัญหาปัจจุบันความพยายามที่จะไม่ใช้มิเตอร์ เราได้ทำความเข้าใจกลุ่มผุ้ประกอบการแล้วว่าทำไม่ได้ เพราะที่อ้างว่าราคามิเตอร์ไม่คุ้มทุน กรมฯยืนยันว่าราคามิเตอร์ได้คิดครอบคลุมทุกปัจจัยแล้ว สิ่งที่กรมฯต้องการขณะนี้คือระบบบริหารจัดการ เช่น เอารถมาจอดรอ 2 ชม.ในสนามบินต้องคิดว่าระบบเช่นนั้นเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า ขณะนี้หลายฝ่ายเข้าร่วมทั้งทหาร ตำรวจ กระทรวงฯ กรมฯ และสนามบิน ต่างให้ความสำคัญช่วยแก้ไขปัญหา เรายังมั่นใจว่าพี่น้องผู้ประกอบการรถฯต้องตระหนัก เพราะสนามบินเป็นประตูแรกของประเทศ และนักท่องเที่ยวจะมีความประทับใจในประเทศไทยแค่ไหนแท็กซี่มีความสำคัญ ส่วนมาตรการ เช่นที่มีข่าวในโซเซียลฯของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่โพตส์ว่าถูกไม่ใช้มิเตอร์อีกแล้วนั้น กรมฯได้เรียกมาปรับขั้นสูงสุด 1,000 บาท และมีการพักใช้ใบอนุญาต 1 เดือน และทางสนามบินถอนทะเบียนไม่ให้ให้บริการที่สุวรรณภูมิอีกแล้ว และกรมฯเอาเขาเข้าอบรมจิตบริการเสริมอีก ซึ่งขณะนี้บรรดาแท็กซี่ตระหนักดีว่าถ้ากระทำผิดเช่นนั้นเป็นผลเสียกับตัวเอง ระบบขนส่งสาธารณะ และประเทศชาติ เราหวังว่าทุกคนคงเข้าใจและลดการกระทำพวกนี้ให้หมดไปในที่สุด
นายธีระพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการขู่ว่า 1,700 คันจะหยุดวิ่งนั้น ตนคิดว่าคงไม่มีแล้ว ณ ขณะนี้ยังมั่นใจว่าไม่มี ท่านคงเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร แต่ถ้าท่านยังกระทำการเช่นนั้นตนเรียนว่า กรมฯมีความพร้อมในการดูแลการเดินทางของพี่น้องประชาชน ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯได้สั่งการแล้ว กรมมีความพร้อมที่จะดูแลการเดินทางของประชาชนในทุกรูปแบบ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคมเป็นห่วงมาก สิ่งที่สั่งการลงมา 1.ทำความเข้าใจกับพี่น้องแท็กซี่ให้เข้าใจจริงๆ 2.ให้เตรียมมาตรการรองรับถ้าแท็กซี่ยังคงปฏิบัติเช่นนั้น แต่เรื่องนี้กลุ่มผู้ประกอบการได้พูดคุยกันแล้ว ไม่ได้เป็นความคิดของกลุ่มแท็กซี่ เป็นเพียงกระแสที่พยายามสร้างให้ขึ้นมาในสังคมเท่านั้นเอง ฉะนั้นเรามีหน้าที่ในการในการบริการสาธารณะจิตใจในการให้บริการต้องเป็นจิตสาธารณะจริงๆ และต้องตระหนักถึงความสำคัญของตัวเราเอง ต้องภูมิใจในอาชีพของเรา และต้องช่วยกันพัฒนา กรมฯขีดเส้นไว้แล้วระหว่างมาตรฐานกับไม่ได้มาตรฐาน เราจะช่วยกันพากันไปสู่มาตรฐานให้ได้ เพื่อประเทศของเราได้เดินหน้าต่อไป