เศรษฐกิจเปราะบาง ศักยภาพการแข่งขันถดถอย ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนมีนาคมลดต่ำสุดในรอบ 5 เดือน แนะรัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐ 2 แสนล้านบาท อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบวอนกนง.ลดดอกเบี้ย 0.5% ช่วยกดดันบาทอ่อน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย เดือนมีนาคม2558 พบว่า ดัชนีอยู่ระดับ 87.7 ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งมีระดับ 88.9 โดยดัชนีดังกล่าวพบว่าเป็นระดับที่ลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 3 และถือเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน โดยเดือนพฤศจิกายน 2558 ดัชนีระดับ 89.7 เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนยังขาดปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่น ซึ่งมาจากความเปราะบางของเศรษฐกิจในประเทศ ปัญหาขีดความสามารถทางการแข่งขันลดลงเนื่องจากขาดการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต และยังพบปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำต่อเนื่อง กระทบต่อกำลังซื้อของเกษตรกรที่มีประมาณ 10 ล้านรายทั่วประเทศ นอกจากนี้ผลจากค่าเงินบาทไทยแข็งค่าเมื่อเทียบกับภูมิภาค จึงเป็นปัจจัยด้านลบต่อผู้ประกอบการส่งออก
นายสุพันธ์กล่าวว่าดัชนีความเชื่อมั่นเดือนมีนาคมมีข่าวดีอยู่บ้างเพราะความเชื่อมั่นอนาคตหรือคาดการณ์3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้นอยู่ระดับ 100.4 จากเดือนกุมภาพันธ์ระดับ 99.2 เป็นการกลับมาดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังจากลดลงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2558 ระดับ101.7 เนื่องจากผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีรวมทั้งธุรกิจในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ เชื่อมั่นว่าผลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะเริ่มเห็นผลช่วงไตรมาส3(เมษายน-มิถุนายน) ของปีงบประมาณ 2558 แต่เศรษฐกิจภาพรวมจะปรับตัวดีขึ้นจริงหรือไม่ต้องติดตามสถานการณ์จริงอีกครั้ง
" ผู้ประกอบการเห็นว่าการบริโภคและการลงทุนจะเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการในการขยายการลงทุน ดังนั้น ภาคเอกชนจึงได้เสนอแนะให้ภาครัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกการค้าการลงทุนโดยเม็ดเงินลงทุนของภาครัฐที่วางไว้ประมาณ 200,000 ล้านบาทนั้นภาครัฐควรจะทยอยออกมาในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศจากขณะนี้ที่การเบิกจ่ายค่อนข้างล่าช้า และเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ขณะเดียวกันด้านการส่งออกภาครัฐควรดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพและอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ "นายสุพันธุ์กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันที่ 29 เมษายนนี้ ว่า อยากให้พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.5% ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1.75%เพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 3-5% ทันที เนื่องจากขณะนี้ค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าลงไปแล้วเฉลี่ย 6-7% ทำให้การส่งออกไทยเสียเปรียบคู่แข่ง โดยการที่กนง.ลดดอกเบี้ยช่วงที่ผ่านมา 0.25% ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงเพียง แค่2-3% เท่านั้นจึงยังไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ดีมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในฐานะดูแลค่าเงินบาทอาจใช้เครื่องมืออื่นเข้ามาดำเนินการ นอกจากเครื่องมือทางด้านดอกเบี้ยอย่างเดียว แต่ก็ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นด้วย อาทิ ฐานะการเงินประเทศ ทั้งนี้เพื่อเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี