คลังระดมแบงก์รัฐจัดแพ็กเกจปั๊มศก.
เน้นปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ
อัดเม็ดเงินปลุกกำลังซื้อ
คลังเรียกแบงก์รัฐประชุมสรุปแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยผู้มีรายได้น้อย-เอสเอ็มอี สนองนโยบายรัฐบาล เตรียมเสนอนายกฯ 3 มิถุนายนนี้
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ จะประชุมผู้บริหารแบงก์รัฐเพื่อสรุปแพ็กเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยกระทรวงการคลังจะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบในโอกาสที่จะเดินทางมาประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่กระทรวงการคลัง เป็นประธานในวันที่ 3 มิถุนายนนี้
หลังจากนี้กระทรวงการคลังจะจัดงานประชาสัมพันธ์แพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกภาค โดยจะจัดงาน 5 แห่ง เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าถึงมาตรการมากที่สุด โดยมาตรการกระตุ้นรอบใหม่จะเป็นการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ(แบงก์รัฐ)ทุกแห่ง เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ได้มีเงินทุนหมุนเวียนและสภาพคล่องมากขึ้น
“แบงก์รัฐทุกแห่งต้องนำเสนอแพ็กเกจของตัวเองว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นจะนำหารือกับนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เพื่อสรุปแพ็กเกจว่าจะเอาอันไหนเสนอนายกรัฐมนตรี หรือจะแยกไว้ให้แต่ละแบงก์ดำเนินการเอง และจะต้องหารือว่าจะเสนอนายก เป็นแพ็กเกจรวมโครงการใหญ่เลยหรือไม่” นายกฤษฎา กล่าว
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารจะเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ให้กับผู้สูงอายุ อัตราดอกเบี้ย 2.29% ต่อปี ระยะเวลาฝาก 4 เดือน ผู้ฝากต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ต้องฝากไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท
นอกจากนี้ จะนำเสนอสินเชื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของธ.ก.ส. ซึ่งที่ผ่านมา ได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่จะประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้ารับทราบว่าถึงรายละเอียดต่างๆ ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีมาตรการอื่นๆ อีก ที่ให้ทั้งกับประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
นายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่าจะเสนอแพ็กเกจสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าสินเชื่อปกติประมาณ 0.50% ต่อปี เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ต้นทุนลดลง เช่น ดอกเบี้ยอัตรา 8.75% ก็ลดลงมาให้อยู่ประมาณ 8.29% นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการเพิ่มเติม
ขณะที่ธนาคารออมสินมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้กู้โครงการธนาคารประชาชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งจะเป็นมาตรการ
เพิ่มเติมให้กับเอสเอ็มอีแบงก์ เพราะเอสเอ็มอีแบงก์อยู่ระหว่างการฟื้นฟู ในส่วนของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)อยู่ระหว่างการพิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยจะดูว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ย 0% ได้นานสุดเป็นเวลากี่เดือน เพื่อลดภาระของผู้ซื้อบ้านในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีให้นานที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี