นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย (ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส)เปิดเผยถึงรายงาน Capital Markets 2020 : Will it change for good? ที่ได้ทำการสำรวจผู้บริหารตลาดทุนและผู้นำในแวดวงอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลกกว่า 250 ราย ว่าแม็คโครเทรนด์ 4 ประการประกอบด้วย ความผันผวนของเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมโลก การเพิ่มขึ้นของกฎระเบียบข้อบังคับ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการขาดแคลนทรัพยากร จะเปลี่ยนแปลงตลาดทุนทั่วโลกในปี 2563
“ตลาดทุนในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีความสำคัญมากขึ้นต่อธุรกิจการเงิน โดยเป็นแหล่งของการระดมทุน และช่วยวางรากฐานการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ขณะที่กระแสแม็คโครเทรนด์เหล่านี้ จะเป็นตัวเร่ง หรือผลักดันให้เกิดการปฏิวัติปัจจัยพื้นฐานของอุตสาหกรรมบางประการในอนาคต ซึ่งผู้เล่นทั้งหลายต้องเตรียมรับมือกับความเสี่ยงตั้งแต่วันนี้ หากต้องการให้ธุรกิจอยู่รอด” นายศิระกล่าว
รายงานยังพบว่า ความท้าทาย 3 ประการที่ผู้บริหารในแวดวงตลาดทุนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญมากที่สุด ได้แก่ การเพิ่มผลกำไรให้แก่ลูกค้า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการดึงดูดและรักษาพนักงานที่เป็นทาเลนต์
ผลสำรวจพบว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า เอเชีย จะกลายมาเป็นภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญในตลาดทุนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยผู้บริหารตลาดทุนถึง 76% คาดว่า ภายในปี 2563 จะมีศูนย์กลางทางการเงินแห่งใหม่เกิดขึ้นและกลายมาเป็นคู่แข่งที่สำคัญของตลาดยักษ์ใหญ่ เช่น ลอนดอน และนิวยอร์ก ซึ่งผู้บริหารตลาดทุนมองว่า เอเชียจะเป็นศูนย์กลางทางเงินที่ทรงอิทธิพลแห่งที่สามของโลก
อย่างไรก็ดี ตลาดมหาอำนาจทั้งสองจะยังคงเป็นผู้นำทางการเงินของโลกเพราะมีความพร้อมทั้งในด้านเสถียรภาพ ความโปร่งใส ระบบตรวจสอบที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งเครื่องมือทางการเงิน และเทคโนโลยีที่ครบครันกว่า ขณะที่ตลาดทุนในเอเชียซึ่งส่วนใหญ่เป็นขนาดรอง ยังไม่แข็งแกร่งเท่า แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้น คือ การผนึกกำลังของตลาดทุนในเอเชีย ในอนาคตจะเห็นการ
เพิ่มขึ้นของศูนย์กลางทางการเงินในเอเชีย นอกเหนือจากฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้, โตเกียว หรือสิงคโปร์ และจะเห็นตลาดทุนในภูมิภาคนี้ที่มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นด้วย
สำหรับ 6 ภารกิจหลักที่ผู้บริหารตลาดทุนต้องให้ความสำคัญและนำมาปรับใช้กัน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปี 2563 ได้แก่ 1. จัดการความเสี่ยงเชิงรุก ทั้งความเสี่ยงจากธุรกิจ กฎระเบียบ และเงินทุน 2.สร้างพฤติกรรมและวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง 3.ปรับนิยามรูปแบบการทำธุรกิจโดยนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ 4.ปรับรูปแบบการปฏิบัติการเชิงกลยุทธ์ เช่น การวางระบบงานไอทีอัตโนมัติ การใช้ประโยชน์จากระบบงานส่วนกลางและหลังบ้าน เพื่อลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน และช่วยลดต้นทุน 5. ส่งเสริมให้เกิดการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ 6. ใช้ประโยชน์จากข้อมูลในด้านต่างๆ เพื่อการวิเคราะห์คู่แข่งและลูกค้า
“การเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นกับแวดวงตลาดทุนทั่วโลกนี้ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ฉะนั้นผู้ประกอบการที่ต้องการอยู่รอด จะต้องปรับตัวให้ทัน ต้องทำงานในเชิงรุกตั้งแต่วันนี้ ดีกว่ารอให้อีก 5 ปี มาถึงก็สายไปแล้ว”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี