กสท-ดีแทคคืนคลื่นโดยไม่มีเงื่อนไข-เดินหน้าประมูลไลเซ่นส์ตามแผน
กสทช.เฮได้4จีเพิ่ม5MHz
คาดว่าจะเป็นไปตามกอบเวลาเดิม แต่ได้เงินมากขึ้น หลังได้คลื่นมาเพิ่มอีก 5 เมกฯ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากหารือกับพ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการบริหารและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยได้ข้อสรุปร่วมกันแล้วว่า การคืนคลื่นจำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ในย่านความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ที่ไม่ได้ใช้งานของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค โดย กสท ยินยอมคืนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากประชุมได้ข้อสรุปดังกล่าวแล้ว ทางกสทช.ได้ขอให้กสทและดีแทคทำหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อแสดงความจำนงในการคืนคลื่นมายังกสทช.ภายในต้นเดือนก.ค.นี้ หรืออย่างช้าในวันที่ 7 ก.ค.นี้ เพราะกรอบเวลาของกสทช.คือจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในวันที่ 7 ก.ค.ดังกล่าว จากนั้น ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ จะนำเข้าสู่วาระการประชุมกสทช.เพื่อขออนุมัติ และในวันที่ 17 ก.ค.จะนำร่างหลักเกณฑ์การประมูล (ไอเอ็ม) ใบอนุญาต 4จี ย่าน 1800 MHz ไปเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์)
“การคืนคลื่นในย่าน 5 MHz นั้นทางกสทยืนยันว่าไม่มีเงื่อนไขใดๆ แลกเปลี่ยน และไม่ขอเงินชดเชยใดๆ โดยเมื่อคืนมาจะทำให้ในย่านดังกล่าวกสทช.จะเปิดประมูล 2 ใบอนุญาต ใบอนุญาต ละ 15 MHz เพิ่มจากเดิมที่ประมูลใบอนุญาตละ 12.5 MHz โดยในจำนวน 5 MHz ที่ส่งมานั้นจะสลับกับส่วนฟันปลาที่เป็นช่องโหว่อยู่จะทำให้ย่านคลื่นติดกัน”
ทั้งนี้ในส่วนของกสท ก็แจ้งว่าหลังจากหารือกับกสทช.เสร็จแล้ว ก็จะทำหน้งสือแจ้งไปยังม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และจะได้ดำเนินการร่วมกับดีแทคในฐานะคู่สัญญาสัมปทานในการแก้ไขสัญญาของทั้งคู่ที่จะสิ้นสุดลงในปี 2561 จากเดิมที่ดีแทคจะมีสิทธิใช้คลื่น 50 MHz บนคลื่นย่าน 1800 MHz แก้ไขใหม่เป็น 45 MHz ตามสัญญาสัมปทาน โดยหลังจากแก้ไขแล้วต้องนำสัญญาแนบท้ายฉบับใหม่เข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับรองการแก้ไขสัญญาแนบท้าย
ขณะเดียวกันเงื่อนไขการประมูล (ไอเอ็ม) นั้น ขณะนี้ทางสำนักงานกสทช.กำลังแก้ไขน่าคาดว่าจะเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้ ส่วนราคาตั้งต้นของใบอนุญาตนั้นกำลังขอสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ส่งราคามาใหม่ โดยการเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ไป 5 MHz ทางไอทียูก็คูณมูลค่าคลื่นความถี่ตามจำนวนเมกะเฮิรตซ์เข้่าไปก็น่าจะแล้วเสร็จได้เร็วๆ นี้ โดยกสทช.ยืนยันว่าจะประมูล 4จี ย่าน 1800 MHz ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้ไม่มีสัญญาณใดๆ จะทำให้การประมูลเลื่อนออกไปได้
ด้านนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา หนึ่งในกสทช. และ กทค. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ความคืบหน้าในการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 MHz ไอทียู เพื่อนำมากำหนดราคาตั้งต้นการประมูล 4จี ที่ กสทช. จะจัดการประมูลในช่วงปลายปีนี้
โดยล่าสุดแม้การประเมินยังไม่แล้วเสร็จแต่ ไอทียู ได้แจ้งมายัง กทค. แล้วว่าแนวโน้มการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ผลออกมาจะใกล้เคียงกับที่ไอทียูเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนที่มีคำสั่งจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ให้ระงับการประมูล 4จี เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา คาดจะประเมินแล้วเสร็จอย่างช้าสุด คือต้นเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้เมื่อผลการประเมินแล้วเสร็จ จะต้องนำมาพิจารณาในที่ประชุมบอร์ด กทค. อีกครั้งว่าจะกำหนดราคาตั้งต้นการประมูลในอัตรา 70% จากราคามูลค่าคลื่นความถี่ที่แท้จริงเหมือนการกำหนดราคาตั้งต้นการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และ 900 MHz ในครั้งก่อนมีการระงับการประมูล หรือกำหนดราคาตั้งต้นการประมูลในอัตรา 100% ของมูลค่าคลื่นความถี่
“คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จำนวน 5 MHz ที่ กสท จะคืนมาให้ กสทช. ไม่กระทบต่อการประมูล 4จี เพราะราคาคลื่นความถี่ไม่จำเป็นต้องประเมินใหม่ เนื่องจากการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ที่นำมากำหนดราคาตั้งต้นการประมูล 4จี ที่ ไอทียู คำนวณออกมาจะเป็นการประเมิน
ออกมาในอัตราราคาคลื่นต่อ 1 MHz ฉะนั้นหากมีคลื่นความถี่เพิ่มขึ้นมาอีก 5 MHz ก็สามารถเทียบมูลค่าคลื่นความถี่และเพิ่มเข้าไปในราคาตั้งต้นการประมูลได้ทันที” นายประวิทย์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี