นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน กล่าวย้ำว่ากระทรวงพลังงาน ยังคงเดินหน้าตามแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้อย่างเต็มที่ หากไม่มีพลังงานหลัก อย่าง ถ่านหินแล้ว จะทำให้พื้นที่ภาคใต้จะมีความเสี่ยงปริมาณไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ เพราะปัจจุบันภาคกลางส่งกระแสไฟฟ้าไปช่วยพื้นที่ภาคใต้ได้เพียง 600เมกะวัตต์เท่านั้น จากข้อจำกัดด้านระบบสายส่ง อีกทั้งหากไม่มีพลังงานหลัก การดำเนินนโยบายพลังงานทดแทนก็จะทำได้ยากขึ้น ดังนั้นจะเร่งเดินหน้าชี้แจงประชาชนเพื่อทำความเข้าใจ โดยในวันที่ 25 ก.ค.2558 นี้ มีกำหนดเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ อ.เทพา จ.สงขลา อีกครั้ง
สำหรับการขับเคลื่อนแผนพลังงานดังกล่าว จะเร่งดำเนินให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ของประเทศ PDP2015 ที่ระบุไว้ว่า จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนขึ้นเป็น 40% ซึ่งจะเน้นการผลิตพลังงานจากขยะมากที่สุด แต่ปัจจุบันพบว่า ยังติดปัญหาในเรื่องของผู้มีอิทธิพล ที่ตั้งตัวเป็นเจ้าของขยะในพื้นที่ ทำให้มีปริมาณขยะที่ผลิตเข้าระบบได้เพียง 500 เมกะวัตต์เท่านั้น จึงต้องเดินหน้าส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีศักยภาพ และในอนาคตจากเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ราคาพลังงานจากแสงอาทิตย์มีราคาที่ถูกลงต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการผลิตไว้ที่ 6,000 เมกะวัตต์
ส่วนกรณีที่บางฝ่ายต้องการให้นำปาล์มน้ำมันมาผลิตกระแสไฟฟ้าแทนเชื้อเพลิงถ่านหินนั้น ยืนยันว่าปาล์มน้ำมันสามารถผลิตได้เต็มที่เพียง 200 เมกะวัตต์เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในภาคใต้อย่างแน่นอน
นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีที่มีกลุ่มคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ว่า กลุ่มคัดค้านได้ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ 1.ให้ยกเลิกรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม 2.เสนอให้เลื่อนการเปิดประมูลโครงการ ในวันที่ 5 ส.ค. 2558 นี้ออกไปไม่มีมีกำหนด 3.การตั้งคณะกรรมการร่วมกันก่อนมีการพิจารณาใดๆ นั้น
ขณะที่ กระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า การเตรียมการสร้างโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด และท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ที่ จ.กระบี่ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ครบถ้วนตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ และได้มีการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของทั้ง 2 โครงการ ควบคู่กันมาต่อเนื่อง ซึ่ง กระทรวงพลังงานขอให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ความจำเป็นของการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด ที่ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมที่เคยมีโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ ของ กฟผ. อยู่แล้วนั้น ก็เพื่อจัดหาไฟฟ้าให้เพียงพอในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี