นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล ครั้งที่ 5/2558 ปริมาณ 668,228.57 ตัน โดยเป็นข้าว 11 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5%, ข้าวขาว10%, ข้าวเหนียว 10%, ข้าวหอมมะลิ 100%ชั้น 2, ปลายข้าวขาวเอวัน,ปลายข้าวขาวเอวันเลิศ ข้าวท่อนปทุม, ข้าวปทุมธานี, ปลายข้าวหอมมะลิ, ข้าวท่อนหอมมะลิ และปลายข้าวหอมปทุม ในคลังของ องค์การคลังสินค้า(อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ซึ่งจะมีการชี้แจงการประมูลในวันที่ 5 ส.ค. 2558 เปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติ วันที่ 10 ส.ค. และให้ยื่นซองเสนอราคาการประมูลและเปิดซองการประมูลในวันที่ 11 ส.ค. ที่กระทรวงพาณิชย์ต่อไป
สำหรับการการประมูล ครั้งล่าสุด หรือครั้งที่ 4/2558 ณ วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา สามารถระบายไปได้ปริมาณ 1,148,000 ตัน มูลค่า 12,079 ล้านบาท ขณะที่การระบายข้าวทั้งหมดของรัฐบาล 8 ครั้ง โดยเป็นของปี 2557 จำนวน 4 ครั้งและของปี 2558 อีก 4 ครั้ง สามารถระบายข้าวได้แล้ว ปริมาณ 3,881,952 ตัน มูลค่า 40,950 ล้านบาท
ทั้งนี้ ข้อมูลปริมาณข้าวในสต๊อกรัฐบาล ณ วันที่ 30 มิ.ย.2558 มีปริมาณทั้งสิ้น 15.11 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวที่บริโภคได้ 9.15 ล้านตัน เป็นข้าวคุณภาพดีเกรดเอและบีปริมาณ 1.82 ล้านตัน และข้าวเกรดเอ บี ผสมซีปริมาณ 7.33 ล้านตัน, ข้าวที่จะระบายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมปริมาณ 5.89 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเกรดซี 4.6 ล้านตันและข้าวเสีย 1.29 ล้านตัน และข้าวที่ระหว่างดำเนินคดีอีก 7 หมื่นตัน
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การระบายข้าวครั้งนี้ของรัฐบาล คาดว่าจะระบายได้ทั้งหมด กว่า 6 แสนตัน และน่าจะได้ราคาที่ดีขึ้น เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวในตลาดมีราคาสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยอมรับว่าข้าวมีหลายเกรด ราคาอาจแตกต่างกันบ้าง ส่วนการระบายครั้งถัดไปหลังจากนี้ อาจจะมีข้าวดีที่บริโภคได้นำมาประมูล แต่คงมีปริมาณน้อย อีกทั้งต้องมีการวิเคราะห์ ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนเปิดประมูล เพราะมีหลายหน่วยงานได้แสดงความเป็นห่วงมา โดยเฉพาะข้าวที่มีเชื้อราที่จะเปิดให้มีการประมูลนั้นไม่ควรนำไปบริโภคทั้งในคน และสัตว์ ดังนั้น การจะเปิดระบายต้องมีการระมัดระวัง อีกทั้งต่างประเทศยังให้ความสนใจต่อการระบายของของรัฐบาลไทย ว่าเป็นข้าวที่มีคุณหรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ข้าวไทย
ขณะเดียวกันถือเป็นเรื่องน่ายินดีเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าข้าวของไทยในฮ่องกง โดยตนได้รับรายงานจาก สำนักงานส่งการค้าระหว่างประเทศ (สคร) ณ ฮ่องกง ว่าขณะนี้ไทยได้แชมป์การส่งออกข้าว ในตลาดฮ่องกงคืนจากเวียดนามแล้ว ซึ่งล่าสุดการส่งออกข้าวไทยไปฮ่องกง 5 เดือน หรือ ม.ค.-พ.ค. 2558 ไทยส่งข้าวหอมมะลิไปฮ่องกงจำนวน 78,194 ตัน เพิ่มขึ้น 23.8% จากปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 15,046 ตัน ซึ่งถือว่าไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่มีสัดส่วนตลาดถึง 58.8% ของการนำเข้าข้าวของฮ่องกง เพิ่มขึ้น 46.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาเป็นเวียดนามมีสัดส่วนทางตลาด 28.2% และจีนมีสัดส่วน 7%
ขณะเดียวกัน ได้รับข้อทราบมาว่าสัดส่วนข้าวเวียดนามในฮ่องกงปรับลดต่ำกว่า 30% เป็นเดือนที่ 5 แต่ราคาข้าวหอมปทุมไทยได้ปรับตัวสูงขึ้น และข้าวของเวียดนามที่เข้าสู่ตลาดตั้งแต่เดือน มี.ค. มีราคาแตกต่างจากข้าวหอมปทุมไทยประมาณ 100-150 เหรียญสหรัฐต่อตัน จะส่งผลให้การส่งออกของข้าวไทย ขยายตัวในอัตราที่ลดลง ดังนั้นไทยต้องมีมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ การใช้เครื่องหมายตราเขียวของข้าวหอมมะลิเป็นภาษากวางตุ้ง อย่างไรก็ตามสคร. ก็ได้เตรียมจัดคณะผู้ซื้อจากกลุ่มเครือข่ายร้านอาหารในฮ่องกงเจรจาซื้อข้าวหอมปทุมในเขตภาคกลางในช่วงเดือนก.ย.นี้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี