5 ส.ค.58 นายพรชัย รุจิประภา รัฐเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า กระทรวงไอซีทีเตรียมนำ ร่างกฎหมาย 3 ฉบับ จากร่างกฎหมายทั้ง 10 ฉบับ ที่กระทรวงไอซีที ได้เสนอคณะรัฐมนตรีและได้อนุมัติในหลักการ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ.... , พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับ..) พ.ศ. ... เข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงไอซีที และ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) จัดทำผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2558 โดยผลสำรวจดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ภาครัฐมองเห็นทิศทางในภาพรวม ซึ่งต่อไปสามารถนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ในการวางนโยบาย ผลักดันและส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยี วางกรอบมาตรฐานอีคอมเมิร์ซ รวมถึงกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับภาคสังคม
สำหรับบทบาทไอซีที เบื้องต้นมีเป้าหมายที่จะวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกให้เข้าถึงทุกหมู่บ้านทั่วประเทศภายในปี 2559 เข้าถึงทุกบ้านภายในปี 2560 ขณะเดียวกันสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้ใช้ออนไลน์ขับเคลื่อนการเติบโตธุรกิจ
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (เอ็ดด้า) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2558 (Thailand Internet User Profile 2015) จำแนกตาม 4 เจนเนอเรชั่น: Gen X Gen Y Gen Z และ Baby Boomer โดยระยะเวลาที่ในการสำรวจพฤติกรรมช่วงเดือน มีนาคม – พฤษภาคม 2558 จากผู้ตอบแบบสอบทั้งหมด 10,434 คนถามพบว่า การใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยในทุกช่วงระยะเวลาการทำงานสูงมากว่าปี 2557 โดยเพศที่สามมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงสุด 58.3 ชั่วโมต่อสัปดาห์ เจนเนอร์เรชั่น Y ใช้อินเทอร์เน็ตสูงสุด 54.2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยสมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากทึ่สุด สำหรับกิจกรรมยอดนิยมในการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่คือ การใช้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์ค ร้อยละ 82.7 การสืบค้นข้อมูลร้อยละ 56.6 การติดตามข่าวสารร้อยละ 52.2 สำหรับปัญหาในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่พบมากที่สุดคือ ความล่าช้าในการเชื่อมต่อ ร้อยละ 72 การโดนรบกวนจากโฆษณาออนไลน์ ร้อยละ 41.6 และเกิดปัญหาความยากในการเชื่อมต่อหรือสัญญาณหลุดบ่อย ร้อยละ 33.8
ทั้งนี้ผลสำรวจพฤติกรรมในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ สินค้าแฟชั่น ร้อยละ 42.6 อุปกรณ์ไอที ร้อยละ 27.5 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพร้อยละ 24.4 ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจจากการนำเสนอข้อมูลสินค้าของเว็บไซต์ ร้อยละ 51.2 ความชัดเจนและความน่าสนใจของภาพผลิตภัณฑ์ ร้อยละ 50.5 สินค้าและบริการถูกกว่าร้านค้าปกติ ร้อยละ 46.4 การประหยัดเวลาในการเดินทางร้อยละ 46.1 โปรโมชั่น ร้อยละ 41.6 ช่องทางที่นิยมใช้ในการชำระเงินยังคงเป็นช่องทางออฟไลน์ โดยการชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารได้รับความนิยมสูงสุด ร้อยละ 65.5โอนผ่านเอทีเอ็ม ร้อยละ 31.2 ชำระผ่านช่องทางออนไลน์ ร้อยละ 26.4 ชี้ให้เห็นว่าผู้ซื้อยังไม่มั่นใจการชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์
"นอกจากความมั่นใจในการชำระเงิน มีปัญหาของการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ คือ ได้รับสินค้าช้ากว่ากำหนด ได้ของไม่ตรงกับที่เห็นในเว็บ และสินค้าเกิดความชำรุดเสียหาย "
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี