รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สศค.ได้ประเมินภาพรวมการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) ในไตรมาสแรกปี 2558 ประกอบด้วย 8 แห่ง ปรากฏว่าสินเชื่อรวมขยายตัวได้ต่อเนื่อง คุณภาพสินเชื่ออยู่ในเกณฑ์ดี และมีเงินกันสำรองในระดับที่สูง มีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง และเงินกองทุนอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินงานในระยะต่อไป
ทั้งนี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 8 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) บรรษัทค้ำประกันสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม (บสย.) และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.)
สำหรับไตรมาสแรก สถาบันการเงินดังกล่าว มีสินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.99 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5.8% ขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า 1.1% ขณะที่เงินฝากรวมอยู่ที่ 3.99 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5.3% และขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า 3.4%
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสินเชื่อรวมที่ขยายตัวได้ดี เป็นสินเชื่อธุรกิจที่ขยายตัวได้ดีอยู่ที่ 9.8% จากที่ไตรมาสก่อนหน้าขยายตัวได้ 5.6% แต่ในส่วนของสินเชื่อเพื่อการบริโภคขยายตัวได้ลดลงอยู่ที่ 2.4% จากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 4.7%
ทั้งนี้ สาเหตุที่สินเชื่อการบริโภคลดลง มาจากการลดลงของสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นสำคัญอยู่ที่ 3.5% จากที่ช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าขยายตัวได้ 3% และไตรมาสก่อนหน้าขยายตัวได้ 0.9% สินเชื่อส่วนบุคคลขยายติดลบทั้งการบริโภคทั่วไป การศึกษา การเดินทางไปต่างประเทศมีเพียงสินเชื่อเพื่อการซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ยังขยายตัว
ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)ไตรมาสแรกปี 2558 อยู่ที่ 2 แสนล้านบาท หรือ 5.5% ของสินเชื่อรวม ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 5.6% เนื่องจากมีการเร่งแก้หนี้เสียและขยายสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น ด้านกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 3,713 ล้านบาท เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) อยู่ที่ 12.3% เป็นระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินงานสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินงานของแบงก์รัฐที่โดดเด่นได้แก่ ธนาคารออมสิน โดยครึ่งปีแรกสามารถทำกำไรสุทธิได้ 7.8 พันล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนว่า 1 พันล้าบาท ขณะที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) ก็พลิกฟื้นสถานการณ์ของแบงก์ที่มีแต่ปัญหามาสามารถทำกำไรสุทธิ 604 ล้านบาท ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในแผนฟื้นฟูที่นำส่งซูเปอร์บอร์ด และธนาคารปล่อยกู้ใหม่ได้ 16,925 ล้านบาท ให้กับลูกค้า 7,376 ราย และทั้งหมดเป็นเอสเอ็มอีรายย่อยวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท ตามนโยบายรัฐ และคาดว่าปีนี้จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 40,000 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ก็ยังทำผลงานได้ดีแม้ว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี